

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วานนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ด้านมั่นคงและกิจการพิเศษ เปิดเผยถึงกรณี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 โดยให้ทุกพื้นที่รับทราบมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งให้มีการตั้งด่านได้ แต่ต้องมีความพร้อมตามมาตรฐานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดคือ มีความโปร่งใส เป็นมาตรฐาน ตรวจสอบได้ โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งการตั้งจุดตรวจต่างๆ ต้องมีความโปร่งใส พร้อมที่จะตรวจสอบจากประชาชน
ทั้งนี้ สิ่งที่จะทำให้โปร่งใสได้คือกล้องซีซีทีวีเคลื่อนไหวได้ ที่จะต้องมีประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ตรวจ และด่านต่างๆ เช่น ด่านกวดขันวินัยจราจร ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ด่านตรวจวัดมลพิษทางอากาศ ด่านอาชญากรรม ฯลฯ จะต้องมีมาตรฐานเดียวกัน ต้องมีป้ายที่มีมาตรฐาน และนำเทคโนโลยีมาใช้ อาทิ ด่านเมา จากเดิมเคยมีปัญหาร้องเรียนต่างๆ ก็จัดให้มีกล้องบันทึกภาพแบบเรียลไทม์ไว้ประจำจุดที่มีการยืนยันผลด้วย
นอกจากนี้ การจะตั้งจุดตรวจจะมีผู้ควบคุมกำกับดูแล คือ ผู้บังคับการในแต่ละพื้นที่ รวมถึงจะมีป้ายแสดงข้อความหากต้องการร้องเรียนได้ที่สายด่วน ตร. 1599 และเบอร์โทรศัพท์ผู้บังคับการ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ทาง ผบ.ตร.ได้ให้ทำฐานข้อมูล TPCC (Traffic Police Checkpoint Control) เพื่อกำหนดจุดตั้งด่าน ลงรายชื่อผู้ปฏิบัติในด่านต่างๆ ลงในแผนที่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ในจุดใดบ้าง มีการซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการหรือไม่ โดยด่านทุกด่านจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการ ซึ่งจะต้องมีเหตุผลในการตั้งด่าน อาทิ บริเวณจุดตั้งด่านมีอาชญากรรมสูง มีเด็กแวนซ์ เป็นทางผ่านขนยาเสพติด เป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อย หรือมีสถานบริการอยู่จำนวนมากที่ต้องตั้งเพื่อป้องปราบผู้ที่เมาแล้วขับ ฯลฯ ยกเว้นกรณีเดียวที่ไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการในกรณีฉุกเฉิน คือ การสกัดจับคนร้าย
“ตอนนี้หลายสถานีมีความพร้อม มีการตั้งไปแล้วส่วนหนึ่ง ในเมืองใหญ่ๆ อาทิ จ.อุบลราชธานี จ.นครราชสีมา เมื่อมีความพร้อมแล้ว 1 เม.ย.เราก็อยากจะให้บังคับใช้กฎหมายเลย เนื่องจากใกล้ช่วง 7 วันอันตราย สำหรับ กทม.ยังไม่ได้ตั้งจริงจัง ซึ่งหากมีความพร้อมอาจจะเริ่ม 1 เม.ย.เช่นกัน” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องกลับมาตั้งด่านตรวจของตำรวจ เนื่องจากการชะลอตั้งด่านไว้ ได้กลับมาศึกษาข้อดีข้อเสีย จนคณะทำงานเห็นว่า การไม่มีด่านเลย จะมีข้อเสียเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในด้านต่างๆ มีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเมาและขับ การขับรถจักรยานยนต์ในเลนห้ามวิ่ง เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น ปัญหาการไม่สวมหมวกกันน็อกเพิ่มมากขึ้น ปัญหายาเสพติด รวมไปถึงการหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว หากไม่มีด่านสกัดต่างๆ ทั้งนี้ เรื่องด่านจึงมีความจำเป็น แต่ต้องทำให้รอบคอบ รัดกุม โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมที่จะถูกร้องเรียนและแก้ปัญหาให้ประชาชน
อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาจะป้องกันการทุจริตได้พอสมควร เนื่องจากก่อนตั้งด่านต้องขออนุญาตผู้บังคับการ และผู้กำกับการ เจ้าของพื้นที่ หากเกิดการทุจริตผู้บังคับบัญชาที่อนุญาตให้ตั้งจุดตรวจต้องรับผิดชอบ ในส่วนที่กำกับดูแลไม่ดีพอ