สวนดุสิตโพล เผย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ภัยสังคม จี้ 3 หน่วยหลัก กวาดล้างให้สิ้นซาก

  • ร้อยละ 82.36 มอง ปชช.ต้องมีสติ ไม่หลงเชื่อ บอกข้อมูลส่วนตัว
  • เห็นตรงกัน “สตช.-ดีอีเอส-กสทช.” แก้ปัญหาโดยด่วน
  • สถาบันการเงิน-สื่อมวลชน ต้องมีส่วนช่วยด้วย

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,221 คน  พบว่า การพบเจอมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่พบเห็นจากข่าวทางสื่อต่างๆ ร้อยละ40.19 รองลงมาคือ ญาติพี่น้อง คนรู้จักเคยพบ ร้อยละ 32.87 เคยพบด้วยตนเอง ร้อยละ 21.02 ไม่เคยพบ ร้อยละ 5.92 

โดยประชาชนคิดว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก ร้อยละ 86.90 สาเหตุที่ระบาดหนักและแก้ไขยาก คือ มีวิธีการหลอกลวงที่ทันสมัย ไม่ต้องแสดงตัวตน ร้อยละ 76.09 รองลงมาคือ มีเครือข่ายรายใหญ่ข้ามชาติ ร้อยละ 69.04

วิธีป้องกันแก้ไขปัญหา คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจัดการกับต้นตอ กวาดล้างให้สิ้นซาก ร้อยละ84.58 รองลงมาคือ ประชาชนต้องมีสติ ไม่หลงเชื่อ ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว ร้อยละ 82.36

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยด่วน ร้อยละ 80.88 รองลงมาคือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร้อยละ 73.79 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร้อยละ 53.51 สถาบันการเงินธนาคาร ร้อยละ 50.08และสื่อมวลชน ร้อยละ 46.24

จากผลโพลจะเห็นได้ว่าประชาชนมีประสบการณ์พบเจอมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้ามาหลอกหลวง ทั้งการพบเจอด้วยตนเองและคนรอบตัวพบเจอ และปัญหานี้ก็ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นภัยสังคมที่มีมานานกว่า 10 ปี แต่กลับไม่สามารถแก้ไขได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังขยายวงกว้างและมีวิธีการหลอกลวงใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย ประชาชนจึงหวังพึ่งตำรวจให้จับกุม ทลายแก๊งเครือข่ายและผู้อยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงทางดีอีเอส เองก็ควรเร่งทำงานสร้างผลงานให้เห็น ไม่เช่นนั้นนับวันประชาชน ก็ต้องตกเป็นเหยื่อมากขึ้น