- พร้อมขู่ต่อไปใครป่วยติดโควิดไม่มีแอพฯหมอชนะจะถือว่ามีความผิด
- ย้ำชัดการเปิดเผยไทม์ไลน์ของผู้ป่วยถือว่ายังมีความจำเป็นมากในการสอบสวนโรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.64) เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้แถลงว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 305 ราย ในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อในประเทศ 193 ราย ค้นหาเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว 109 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 1 ราย และอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 2 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 9,636 ราย หายป่วยสะสม 4,521 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 88 ปี มีโรคประจำตัวคือ มะเร็งป่วยติดเตียงอยู่แล้ว ติดเชื้อมาจากลูกชายซึ่งมีประวัติไปพื้นที่เสี่ยงใน จ.ระยอง โดยวันที่ 22 ธ.ค.63 ลูกชายไปเยี่ยมแล้วพบว่าติดเชื้อทีหลัง และเข้ารักษาที่โรงพยาบาลระยอง ต่อมาวันที่ 2 ม.ค.64 มีอาการไข้ มีเสมหะ และตรวจพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 3 ม.ค.64 จากนั้นมีอาการมากขึ้นและเสียชีวิตในวันที่ 6 ม.ค.64 ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 67 ราย
ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 87,636,539 ราย เสียชีวิตสะสม 1,890,791 ราย อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ข้อมูลการกระจายตัวของผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับบ่อนไก่ จ.อ่างทอง มีทั้งสิ้น 88 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ จ.อ่างทอง 50 รายพระนครศรีอยุธยา 15 คน สุพรรณบุรี 13 คน ลพบุรี 6 คน สิงห์บุรี 4 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ได้ออกข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 17 ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่เข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังโรค โดยยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคให้มีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งการรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ การวัดอุณหภูมิร่างกาย การติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่กำหนด ตลอดจนยอมรับการกักตัวตามระยะเวลาและสถานที่ที่กำหนด หากอยู่ในข่ายที่ต้องกักตัว รวมถึงสนับสนุนให้ใช้แอปพลิเคชันหมอชนะ ควบคู่กับการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ ซึ่งมาตรการตรงนี้อาจเข้มข้นมากขึ้น โดยในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้หารือกันว่า ต่อไปใครติดเชื้อโควิด-19 ถ้าตรวจสอบแล้วไม่พบว่า มีการติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ จะถือว่าท่านละเมิดข้อกฎหมายตามประกาศฉบับที่ 17 นี่คือสิ่งที่เราจะค่อยๆเข้มขึ้น
อีกทั้งยังเป็นการยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดในพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบและควบคุมการใช้เส้นทางคมนาคมเข้าและออกพื้นที่ ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อคัดกรองการเดินทางเข้าและออกพื้นที่ และให้ผู้อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสุงสูดต้องติดตั้ง และใช้ระบบแอปพลิเคชันหมอชนะด้วย
สำหรับบุคคลที่จะประสงค์เดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดต้องแสดงเหตุผลจำเป็น โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชนควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ เว้นแต่เป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ศบค.มท.กำหนด ยืนยันการตั้งจุดตรวจตามเส้นทางต่างๆ ไม่ใช่การปิดกั้นการสัญจรทั้งหมด แต่เป็นการสร้างความไม่สะดวกในการเดินทาง เพื่อให้ประชาชนเดินทางลดลง
ขณะเดียวกัน ในประกาศดังกล่าวยังให้ดำเนินการปราบปรามบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างประเทศ การปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เอื้ออำนวยหรือสมรู้ร่วมคิดให้มีการเปิดบ่อนการพนัน ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดโรคจนส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โดยกำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งตรวจสอบ และนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยผู้ฝ่าฝืนต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทาง หรือข้อมูลเท็จต่อเจ้าหน้าที่ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไปอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ
นอกจากนี้ยังสั่งการให้ ศปม.กวดขันเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย ตอนนี้ต้องขอความร่วมมือและความเข้าใจจากทุกคนว่าตอนนี้มีโทษแรงกว่าเดิม อีกทั้งสนับสนุนให้สร้างการมีส่วนร่วมการตรวจสอบของภาคประชาชนที่หากพบเบาะแสให้แจ้งมา เพราะตอนนี้ละเว้นไม่ได้แล้ว เนื่องจากเป็นเหตุของการก่อโรค ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อของเราเฉียดๆหมื่นรายแล้ว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า หลังจากมีประกาศดังกล่าวออกมา ทาง ศบค.มท.ได้มีหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ตั้งด่านสกัดการเดินทางเข้าและออกพื้นที่ทั้งเส้นทางข้ามจังหวัดสายหลักและสายรองตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อลดปริมาณการเดินทาง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดเดินทางข้ามเขตจังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็นต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ เข้ารับการตรวจคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค และในพื้นที่ 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดต้องมีข้อปฏิบัติ ดังนี้ ต้องตรวจวัดอุณภูมิสังเกตอาการผู้เดินทาง สอบถามความจำเป็นและสถานที่ปลายทาง ตรวจสอบการติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะของผู้เดินทาง ตรวจสอบเอกสารรับรองความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ และบันทึกข้อมูลการเดินทาง ส่วน 23 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องปฏิบัติเหมือนกับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพียงแต่ลดเรื่องเอกสารรับรองความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่
ขณะที่อีก 49 จังหวัด ต้องปฏิบัติ 2 ข้อคือ ต้องตรวจวัดอุณภูมิ สังเกตอาการผู้เดินทาง และสอบถามความจำเป็นในการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามาตรการเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะทำให้ยุ่งยากมากขึ้น แต่ไม่หนักถึงขั้นห้ามเดินทางนอกจากนี้ ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบ เจ้าของกิจการ ออกมาตรการให้พนักงานทำงานที่บ้าน เพื่อจะช่วยลดการเดินทางที่เท่ากับการลดโรค ย้ำว่าถ้าท่านป่วยแล้วมีแอปพลิเคชันไทยชนะถือว่าไม่มีความผิด รักษาฟรี แต่ถ้าป่วยแล้วไม่มีแอปพลิเคชันดังกล่าวจะสร้างความยุ่งยากในการสอบสวนโรค ต่อไปก็จะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์ผู้ป่วยนั้นจำเป็นหรือไม่ และจะต้องเปิดเผยหรือไม่ เพราะบางพื้นที่ไม่มีการเปิด นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ตามหลักการแล้วควรจะเปิดเผยไทม์ไลน์ของผู้ป่วย โดยเฉพาะจังหวัดที่ยังมีผู้ติดเชื้อไม่มากเพื่อให้ได้รับทราบประวัติ อาการ ความเสี่ยงและต้นเหตุของการติดเชื้อมาจากแหล่งไหนเนื่องจากเป็นโรคติดต่อ เช่น ตลาด บ่อนพนัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็น ส่วนที่จะต้องบอกให้หมดนั้นมีความจำเป็นอยู่ 3 ข้อ คือ ติดเชื้อจำนวนมาก หลักหลายร้อย เจ้าหน้าที่จะต้องซักประวัติเป็นจำนวนมาก, ตอนนี้สอบประวัติอยู่แต่ยังไม่เสร็จ เช่น เป็นรายที่ 10 จาก 200 ยังมีกระบวนการที่ต้องซักต่อ จึงยังไม่รู้ว่าต้นทางมาจากไหน เหมือนกรณีบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อใน กทม.จากการดูแลสถานที่กับตัว ต้องใช้เวลาในการทวนสอบ, พยายามสอบโรคอยู่แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ตรงนี้จำนวนเยอะมากนี่คือสิ่งที่เป็นปัญหา เนื่องจากเกี่ยวโยงชุดพฤติกรรมที่ไม่ถูกกฎหมาย เหล่านี้ทำให้ชุดข้อมูลที่เราควรจะได้โดยเร็วแต่กลับได้ยากมาก
เมื่อถามถึงกรณีการขอเอกสารเดินทางข้ามจังหวัดของพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่มีผู้คนไปรอขอออกหนังสือเป็นจำนวนมาก ถือเป็นความเสี่ยง จึงขอความชัดเจนว่าใครจะต้องเป็นผู้ลงนามในหนังสือดังกล่าวได้บ้าง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ไม่ต้องไปถึงจังหวัด อยู่ในตำบล อำเภอ หมู่บ้าน ก็สามารถให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนันนายอำเภอ หรือแม้แต่นายจ้าง นายจ้างภาคเอกชน สามารถนำแบบฟอร์มจากกระทรวงมหาดไทย แล้วนายจ้างก็สามารถออกให้ได้ ขอให้มีเหตุผลในการเดินทาง เหล่านี้คือ ความไม่สะดวกที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น ขอให้คิดแล้วคิดอีกในการที่จะออกจากบ้าน ขอให้อยู่บ้านดีกว่า และถ้าทำงานอยู่ที่บ้านได้ก็ขอให้ใช้แทน
เมื่อถามว่า ในอนาคตจะสามารถใช้เพียงแอปพลิเคชันหมอชนะ พร้อมกับบัตรประชาชนแสดงให้กับเจ้าหน้าที่โดยไม่ต้องออกเอกสารการเดินทางได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องการไม่ให้เกิดความยุ่งยากใน 5 จังหวัด จึงต้องมี เพราะเราเข้มมาก และอีก 23 จังหวัด รวม 28 จังหวัด ที่จะมีการเดินทางจะต้องมีหนังสือรับรอง ส่วนแอปพลิเคชันหมอชนะตอนนี้ทุกคนควรจะต้องมี และถ้าติดเชื้อแต่พบว่าไม่มีแอปพลิเคชันหมอชนะ จะต้องมีบทลงโทษตามมาเนื่องจากเราจะต้องควบคุมโรคให้ได้โดยเร็ว ดังนั้น การอยู่ในสังคมร่วมกันการควบคุมโรคจะต้องเกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือ เพราะเราไม่ต้องการบังคับ เพื่ออยู่ในสังคมด้วยกันและให้โรคติดเชื้อลดน้อยลง
เมื่อถามถึงกรณีการจัดหาวัคซีนภาคเอกชนสามารถนำเข้ามาฉีดรักษาให้คนบางกลุ่มได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข่าวไปบ้างแล้วว่าความจริงไม่ได้มีการปิดกั้นใดๆ ส่วนหนึ่งจะมีการจัดซื้อโดยรัฐและดำเนินการวิจัย มีการทำสัญญาซื้อโดยขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง วัคซีนทุกตัวที่จะนำมาใช้ในเมืองไทย ต้องขึ้นทะเบียนโดยผ่านการรับรองจากต่างประเทศ และต้องผ่านการรับรองจาก อย. ในประเทศไทยด้วย
ดังนั้น หากมีเอกชนรายใดที่ต้องการเมื่อมีประกาศออกมาแล้ว ก็ต้องผ่านการรับรองจากทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย ไม่ได้ปิดกั้น แต่จะมาประกาศหรือโฆษณาอะไรไปก่อนอย่างนั้นไม่ได้ เหมือนที่เป็นข่าวที่ผ่านมาเนื่องจากยังไม่ได้มีการขออนุญาตแต่กลับไปประกาศให้จองก่อน ภาคเอกชนใดมีความสามารถคล่องตัวในการทำงานประสานติดต่อเราก็ยินดี และอาจจะทำให้กลุ่มคนที่มีกำลังทรัพย์มีความสามารถในการจองถ้าได้รับการอนุญาตแล้วก็เข้าถึงยาได้เร็ว ไม่ว่ากัน เปิดโอกาสให้ในโลกเสรี
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ทุกคนส่งแรงกายแรงใจไปยังแพทย์ทุกคนที่มาจากทั่วประเทศ ที่มาช่วยกันอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาครดูแลผู้ป่วยหลายพันคน เพราะถือเป็นนักรบแนวหน้า ขอให้ทุกคนช่วยส่งแรงใจช่วยสนับสนุนงานของแพทย์ทุกคนด้วย ดังนั้นขอให้เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือกันด้วย
