

- ประเมินผลสถานการณ์โควิด-19 เตรียมรับเปิดประเทศ
- หลังผ่อนคลายมาครบ 14 วัน
- จ่อปรับสีพื้นที่ควบคุมเข้มการแพร่ระบาดใหม่ รับเปิดให้นั่งดื่มได้
พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. เปิดเผยว่า ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้( 14 ต.ค.) จะมีการเสนอพิจารณามาตรการเปิดประเทศ รวมไปถึงมาตรการด้านสาธารณสุข และการผ่อนคลายบางกิจกรรมกิจการ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อกังวลอะไรจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยตนขอไม่กล่าวถึงรายละเอียด ขอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน และขอให้รอความชัดเจนในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ต.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารโควิด-19 (ศบค.)ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นผอ.ศบค. จะประชุมหารือและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หลังจากผ่อนคลายและปรับมาตรการกิจการกิจกรรมต่างๆ มาครบ 14 วัน อย่างไรก็ตาม ศปก.ศบค.จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาปรับระดับสีใหม่ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือสีแดงเข้ม เหลือจำนวน 24 จังหวัด จากพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง จำนวน 29 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมหรือสีส้ม จำนวน 24 จังหวัด และจะเสนอให้พิจารณาการปรับเวลาเคอร์ฟิวใหม่ หรือ ห้ามออกนอกเคหสถาน จากเดิม 22.00-04.00 น. เป็น 23.00-03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ไปอีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-31 ต.ค.2564
ส่วนกิจการกิจกรรมในพื้นที่สีแดงเข้ม จะเสนอให้ผ่อนคลายและปรับมาตรการคือ ให้สามารถจัดการประชุม รวมถึงงานประเพณีในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ และสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมได้ โดยปรับจำนวนการรวมกลุ่มคนตามระดับพื้นที่สี โดยให้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน, พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน, พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน, พื้นที่เฝ้าระวังระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน รวมถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการกิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.
นอกจากนี้ จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค.พิจารณาแนวทางการเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 10 ประเทศแบบไม่ต้องกักตัว โดยจะพิจารณาปัจจัยหลักคือจำนวนผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ ศบค.พิจารณาสูตรฉีดวัคซีนแบบไขว้ คือฉีดแอสตร้าเซนเนก้าตามด้วยไฟเซอร์ นอกจากนี้จะมีการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรการแนวทางการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรองรับการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวันที่ 1 พ.ย. รวมถึงความพร้อมด้านต่างๆ ก่อนที่จะอนุญาตเปิดสถานบันเทิงให้ดื่มกินได้วันที่ 1 ธ.ค.โดยข้อเสนอต่างๆ จะชัดเจนหรือไม่ รอมติที่ประชุมวันนี้ (14 ต.ค.)