รัฐซ้อมแผนอพยพรับมือน้ำท่วม บรรเทาความเสียหายชีวิตและทรัพย์สิน



รัฐบาลเดินหน้าซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงที หากเกิดสถานการณ์ เพื่อรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงฤดูฝนปีนี้

  • ให้ความช่วยเหลือทันต่อสถานการณ์
  • บรรเทาความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เร่งสร้างการรับรู้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่      ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำเน้นการปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ

ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำและอิทธิพลของการขึ้น – ลง ของน้ำทะเล โดยการเร่งระบายและพร่องน้ำรองรับสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะตกหนัก ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที และประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 2566  มอบหมายให้กอนช. ลงพื้นที่สร้างการรับรู้ให้ประชาชน และซ้อมแผนเผชิญเหตุทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมความพร้อมในพื้นที่เสี่ยงไปแล้วที่ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นย้ำให้บูรณาการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ทรัพยากร สถานที่ สิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ สำหรับพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้ สามารถปฏิบัติตามมาตรการ ติดตาม ประเมิน บริหารจัดการ และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ รวมถึงแจ้งเตือน และให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบอย่างมีความเป็นเอกภาพ ทันต่อสถานการณ์ เกิดประโยชน์ต่อประชาชน บรรเทาความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

“ในช่วงวันที่ 28 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 คาดว่าร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านประเทศไทย ทำให้ฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก อาจเกิดพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำ และน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ขอให้ประชาชนระมัดระวัง ติดตามข่าวสารและสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น สามารถป้องกันและลดผลกระทบได้อย่างทันท่วงที” นางสาวรัชดากล่าว