“พิพัฒน์”เผยนายกฯลั่นให้เอาผิดโรงแรมปรับขึ้นราคาผ่าน “เราเที่ยวด้วยกัน”



  • สั่งสำรวจรายชื่อถอดร่วมโครงการ
  • ททท.ชงครม. 21 ก.ค.เพิ่มโรงแรมไม่มีใบอนุญาต
  • ส.ค.เปิดเฟส2 เที่ยววันธรรมดา-เมืองรอง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กรณีในโซเชียลมีเดียวิจารณ์การเปิดให้จองห้องพักผ่านเว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกัน พบว่าบางโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นผิดปกติ กระทรวงการท่องเที่ยวฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมหารือกับสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เพื่อให้สำรวจว่ามีโรงแรมไหนบ้างที่ปรับราคาห้องพักเอาเปรียบผู้บริโภค โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งตรงมายังกระทรวงว่าให้เร่งยุติเหตุการณ์แบบนี้ หากยังมีการขึ้นราคาห้องพักที่ขายผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันแบบผิดปกติอยู่ จะขึ้นแบล็คลิสต์ ถอดชื่อโรงแรมนั้นๆ ไม่ให้เข้าร่วมการขายทันที ตั้งแต่เฟส 1 รวมถึงเฟส 2 ที่จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา และต้องคืนเงินด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ

ทั้งนี้ หลังจากเปิดเฟสแรกขึ้นและเริ่มให้ของห้องพักตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.2563 พบว่าใน 2 วันแรกมียอดชำระเงินค่าห้องพัก 87,960 คืน จากที่รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย 40% ให้จำนวน 5 ล้านคืน อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่ากำลังซื้อภายในไม่ดี เพราะเพิ่งเปิดให้จองเพียงไม่กี่วัน แต่ไม่เกิน 2 สัปดาห์หรือช่วงเดือนส.ค.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเฟส 2 ด้วยการสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรองและวันธรรมดาเพิ่มเติม โดยให้รัฐช่วยจ่ายสนับสนุนค่าที่พักในอัตราที่มากกว่า 40% เพราะคาดว่าจะมีเงินเหลือจากวงเงิน 18,000 ล้านบาท โดยได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเบื้องต้นแล้ว ทางนายกฯไม่ขัดข้อง

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากกรณีการขายห้องพักผ่านเว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกันในราคาแพงผิดปกติ ได้สั่งการให้ตรวจสอบที่มาของราคาจากทั้งการจองโดยตรงกับโรงแรมและจองผ่านบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ที่เข้าร่วมโครงการว่าเป็นไปตามเงื่อนไขหรือไม่ โดยจะเปิดช่องทางให้ประชาชนที่เจอปัญหาร้องเรียนเข้ามาผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกัน และเบอร์ 1672 สายตรงของ ททท. โดยขอเวลาตรวจสอบไม่เกิน 3 วัน หากผู้ประกอบการโรงแรมไม่ดำเนินตามเงื่อนไข จะถอนสิทธิออกจากโครงการ และต้องคืนเงินให้ประชาชน เนื่องจากนายพิพัฒน์ ย้ำว่าไม่ต้องการให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาส เพราะสิ่งสำคัญคือรัฐบาลอยากให้กระตุ้นการภาคท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ททท.จะเสนอให้ ครม.วันที่ 21 ก.ค.นี้ พิจารณาขยายเกณฑ์ให้โรงแรมที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เนื่องจากปัจจุบันมีโรงแรมเข้าร่วมโครงการฯ 5,000 แห่ง สำหรับมุมมองของผู้ประกอบการโรงแรมถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ อย่างน้อยก็มียอดจองห้องล่วงหน้าเข้ามา ดีกว่าเดิมที่มีอัตราเข้าพักเพียง 0-5% ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ระบาดหนัก โดยส่วนใหญ่เป็นการเดินทางไปในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้จนถึงกลางเดือน ส.ค.นี้ นิยมจอง 1 คืนสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวทะเลภาคตะวันออกกับภาคตะวันตก และนิยมจอง 2 คืนสำหรับการเดินทางไปภาคใต้ อันดับ 1 คือ จ.กระบี่