ประกาศกพท.ฉบับที่ 2 คลอด 10 ประเทศกลุ่ม เสี่ยงคัดกรองก่อนเข้าไทย



  • ”สเปน-ฝรั่งเศส-เยอรมัน-สวิส-อังกฤษ-ญี่ปุ่น-นอร์เวย์-สวีเดน-เดนมาร์ก-สหรัฐ”
  • ผู้โดยสารก่อนบินมาไทยต้องแสดงใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชม.
  • หากไม่มีใบอนุญาตไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน พร้อมทั้งต้องถูกกักตัว14วัน หวังบล็อคตั้งแต่ประเทศต้นทาง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายในวันนี้(18มี.ค.)ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.)จะลงนามในประกาศ เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 (COVID-19) ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 2 เพิ่มเติม ซึ่งประกาศดังกล่าวจะเป็นมาตรการเพิ่มเติม เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ได้มีการประกาศผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศ +2 เขตบริหารพิเศษต้องปฎิบัติตามที่รัฐบาลไทยกำหนด แล้วพบว่ามีผู้โดยสารบางกลุ่มที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไม่ยอมเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ประกาศไปและปรับการเดินทางอ้อมไปท่าอากาศยานทางอื่น  ดังนั้นจึงมีการประกาศเพิ่มเติมซึ่งเมื่อประกาศแล้วจะมีผลบังคับหลังประกาศไปแล้ว 48 ชม.

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 ที่มีการแพร่กระจายไปทั่วโลก ทาง กพท.โดยตนได้มีการลงนามในประกาศ เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 (COVID-19) ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 2 เพิ่มเติม ลงวันที่ 18 มีนาคม 63 โดยประกาศ กพท.ดังกล่าวจะเพิ่มประเทศจากกลุ่มเสี่ยงอีก 10 ประเทศเพิ่มขึ้นประกอบไปด้วยสเปน , ฝรั่งเศส , เยอรมัน , สวิสเซอร์แลนด์ , อังกฤษ, ญี่ปุ่น, นอร์เวย์ ,สวีเดน, เดนมาร์ก-และ สหรัฐอเมริกา ซึ่งหากประกาศออกมาจะทำให้มีประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องปฎิบัติตามข้อกำหนดของประกาศ กพท.รวมทั้งสิ้น 14 ประเทศ + 2 เขตบริหารพิเศษ

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ กพท. ได้มีประกาศ เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 (COVID-19)  ฉบับที่ 1 ไปก่อนหน้าเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 63  ที่ผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศ +2 เขตบริหารพิเศษ ประกอบด้วย สาธารณรัฐเกาหลี, สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง, สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ต้องได้รับการกักตัว และอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อตามที่รัฐบาลไทยกำหนด  

อย่างไรก็ตามในประกาศฉบับที่ 2 จะมีข้อกำหนด ระเบียบปฎิบัติเช่นประกาศ กพท. ฉบับที่ 1 ที่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจาก 10 ประเทศกลุ่มเสี่ยงจะต้องอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อตามที่รัฐบาลกำหนดและผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ให้บริการจากสถานีต้นทางใน 10 ประเทศ จะต้องทำการคัดกรองผู้โดยสาร โดยในเวลาแสดงตัวเพื่อออกบัตรขึ้นเครื่อง(เช็คอิน) ผู้โดยสารต้องแสดงใบรับรองแพทย์ เพื่อยืนยันว่าผู้โดยสารไม่มีความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยมีอายุใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 72 หรือ 3 วันก่อนการเดินทาง และก่อนเดินทางผู้โดยสารจะต้องกักตัวเองก่อนเดินทาง14วัน และหากผู้โดยสารไม่สามารถแสดงใบรับรองแพทย์ได้ ให้งดการออกบัตรขึ้นเครื่องให้แก่ผู้โดยสาร, และเมื่อตรวจสอบใบรับรองแพทย์ และออกบัตรขึ้นเครื่องให้ผู้โดยสารแล้ว ให้ผู้โดยสารกรอกข้อมูลและยื่นต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบินปลายทาง,

นอกจากนั้นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศมีอำนาจออกคำสั่ง ได้แก่ ห้ามผู้ใดเข้าไปในหรือออกจากอากาศยานที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ, นอกจากนี้ในประกาศยังได้ห้ามนำพาหนะอื่นใดเข้าเทียบอากาศยานที่เดินหางเข้ามาในราชอาณาจักร, กำจัดความติดโรค เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ของโรคจัดให้อากาศยานจอดอยู่ ณ สถานที่ที่กำหนด จนกว่าเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมฯ จะอนุญาตให้ไปได้ และให้ผู้เดินทางซึ่งมากับพาหนะนั้นรับการตรวจในทางแพทย์ และอาจให้แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับกาสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ณ สถานที่และระยะเวลาที่กำหนด, ผู้ดำเนินการเดินอากาศต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งผู้เดินทางซึ่งมากับอากาศยานนั้น เพื่อแยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับการส่งเสริมภูมิคุ้มกันโรค ตลอดทั้งออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู การรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ 

อย่างไรก็ตามให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่ออันตราย และมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออันตรายตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศโดยเคร่งครัด และให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งแนวปฏิบัติดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานีต้นทาง และเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานให้ทราบและถือปฏิบัติ และให้เจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานประกาศเพิ่มเติมบนอากาศยานให้ผู้โดยสารทราบโดยทั่วกัน