- แข่งขันอินโดนีเซีย-เวียดนาม
- รองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- จัดตั้งกองบริการบุคลากรต่างชาติ
วันที่ 21 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2565 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้ปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำนักนายกรัฐมนตรี ตามขอเสนอของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) โดยความเห็นชอบของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการ สำนักงาน ก.พ.ร.และประธาน ก.พ.ร.
โดยเป็นการจัดตั้งใหม่ 2 ส่วนราชการ ได้แก่ 1.กองบริการบุคลากรต่างชาติ 2.กองเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และให้ยุบเลิกกองประสานและพัฒนาปัจจัยการลงทุน
นอกจากนี้ ให้ปรับปรุงหน้าที่และอำนาจ 3 ส่วนราชการ ได้แก่ 1.กองยุทธศาสตร์และแผนงาน 2.กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย และ 3.ศูนย์บริการลงทุน
ทั้งนี้ ให้วัดความสำเร็จการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการใหม่ เมื่อครบรอบการรายงานความก้าวหน้าและประเมินผลการปฏิบัติราชการตามที่ ก.พ.ร.กำหนดตัวชี้วัดสำคัญ ต่อเนื่องทุกปีจนถึงปีงบประมาณ พ.ศ.2548
สาระสำคัญ การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของบีโอไอในครั้งนี้ เพื่อให้มีรูปแบบการทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันการดึงดูดนักลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม และรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงที่มีลักษณะพำนักระยะยาว (Long-term Resident : LTR) สู่ประเทศไทย
รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการกำหนดมาตรการสิทธิประโยชน์อื่น (Non-Tax Incentives) จากการเปลี่ยนแปลงกติการะบบการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลของโลก ตาม The Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD)
สำหรับการจัดตั้งกองบริการบุคลากรต่างชาติ โดยยกฐานะจากกลุ่มพิจารณาอนุญาตผู้ชำนาญการต่างประเทศ ของศูนย์บริการลงทุนที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานเพื่อรองรับการดำเนินงานมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ฯ
โดยขยายขอบเขตการบริการให้ครอบคลุมกลุ่มผู้พำนักระยะยาว 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานในประเทศไทย และ 4.กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
ขณะที่การจัดตั้งกองเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของประเทศด้วยกิจการที่มีคุณค่าและศักยภาพสูง และส่งเสริมโครงสร้างการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สุงสุด โดยผ่านเครื่องมือทางการเงินภายใต้การส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ.2560 ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ทดแทนการใช้มาตรการสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และให้ประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าการจัดตั้งส่วนราชการใหม่ภายใน 2-3 ปี
บีโอไอเสนอให้ยุบกองประสานงานและพัฒนาปัจจัยการลงทุน โดยโอนหน้าที่และอำนาจเดิมตัดโอนไปเป็นหน้าที่และอำนาจของกองต่าง ๆ และปรับหน้าที่และอำนาจ 3 ส่วนราชการ ได้แก่ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย และศูนย์บริการลงทุน เพื่อให้สอดรับกับการตัดโอนภารกิจที่ไปจัดตั้งส่วนราชการระดับกองใหม่ และรับโอนภารกิจจากกองประสานและพัฒนาปัจจัยการลงทุนที่ยุบเลิกมาดำเนินการ
