มีรายงานข่าวว่า บริษัทผู้ผลิตยาหลายแห่งร่วมกันเตรียมออกแถลงการณ์ในสัปดาห์หน้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชนในสหรัฐว่า จะไม่ปล่อยวัคซีนใด ๆ ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่เข้มงวด
ทั้งนี้บริษัทผู้ผลิตยามีรายชื่อระบุว่าเป็นบริษัท Pfizer, Moderna, Johnson & Johnson, GlaxoSmithKline และ Sanofi โดยแถลงการณ์ที่จะมีขึ้นนั้นระบุว่า บริษัท ต่างๆจะไม่ขออนุมัติวัคซีนก่อนกำหนดภายใต้แรงกดดันทางการเมืองจากการบริหารของ “โดนัลด์ ทรัมป์”
ประธานาธิบดี “ทรัมป์” ได้ผลักดันให้มีการฉีดวัคซีนภายในเดือนตุลาคมก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีและนักวิทยาศาสตร์หน่วยงานกำกับดูแลและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจำนวนมากได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นรูปแบบของการบิดเบือนทางการเมืองโดยฝ่ายบริหารของ ”ทรัมป์” กับความพยายามที่จะต่อสู้กับไวรัส
ทั้งนี้ ไม่เพียงบริษัทผู้ผลิตยาเท่านั้น ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ได้หารือเกี่ยวกับการแถลงต่อสาธารณะร่วมกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการใช้วิทยาศาสตร์ที่สำหรับรับการพิสูจน์
ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตยา 3 ราย Moderna, Pfizer และ AstraZeneca กำลังทดสอบอาสมัครของตนในการทดลองทางคลินิกเฟสสุดท้าย
ผู้บริหารระดับสูงของไฟเซอร์กล่าวในว่า การทดลองของบริษัทจะเห็นผลเร็วที่สุดในเดือนตุลาคม แต่บริษัทอื่น ๆ ระบุเพียงว่าพวกเขามีแผนที่จะปล่อยวัคซีนภายในสิ้นปีนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขต่างให้การชื่นชมบริษัทผู้ผลิตยาที่มีการพัฒนาวัคซีนอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขาเริ่มกังวลเมื่อ “ ทรัมป์” และทีมบริหารของเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิดที่สามารถเตรียมได้ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายน
แม้ว่า บริษัทต่างๆ จะแข่งขันกันพัฒนาวัคซีนเพื่อเป็นรายแรกนำออกสู่ตลาด แต่พวกเขาก็ต้องดูทิศทางทางการเมืองที่เต็มไปด้วยอันตราย หากพวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มแรก ๆ ที่นำวัคซีนที่ประสบความสำเร็จออกสู่ตลาดพวกเขาสามารถสร้างรายได้มหาศาล
แต่ถ้าวัคซีนดังกล่าวมีผลข้างเคียงเป็นอันตรายสำหรับบางคน ผลเสียอาจเป็นหายนะทำลายชื่อเสียงขององค์กรทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัททั้งหลายในวงกว้าง
ในทวีตและในการให้สัมภาษณ์สื่อ “ทรัมป์” ได้เชื่อมโยงการตั้งใหม่ที่จะมีขึ้นเข้ากับวัคซีนต้านโควิดอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นแนวคิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในที่การประชุมของพรรครีพับลิกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ได้ส่งจดหมายไปยังหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศเพื่อขอให้พวกเขาเตรียมความพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่วัคซีนจะพร้อมภายในปลายเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายน
