ธพส.เปิดประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯโซนซีมูลค่ากว่า 6,700 ล้านบาท



  • คาดได้ผู้รับจ้างในเดือนธ.ค.นี้
  • ขานรับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนภาครัฐ
  • เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ตามเป้าปี63 และ 64

นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ ธพส. ผู้บริหารโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ เปิดเผยว่า ธพส. ได้ประกาศประกวดราคาจ้างงานก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือ ของโครงการส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ โซนซี ซึ่งมีราคากลางในการจัดจ้างประมาณ 6,729 ล้านบาท และกำหนดวันประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในวันที่ 17 ธ.ค. 2563

สำหรับงานก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือ ของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ โซนซี มีกรอบระยะเวลาในการดำเนินงาน 840 วัน โดยจะดำเนินงานก่อสร้างตามมาตรฐานอาคารเขียวไทย (TREES) และ ธพส. มีแผนที่จะเสนอขอรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว(LEED) จาก United States Green Building Council หรือ USGBC ด้วย

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี ได้ลงเสาเข็มเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างชั้นใต้ดิน (Basement) ซึ่งได้ลงนามสัญญาจ้างไปเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา และมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนก.ย.2564

ทั้งนี้หลังจากการเปิดประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือแล้ว ธพส. จะดำเนินงานประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารด้านทิศตะวันออก อาคารด้านทิศตะวันตก และอาคารสนับสนุนต่อไปในช่วงกลางปี 2564 โดย ธพส. มั่นใจว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนดในเดือนก.ย. 2566 อย่างแน่นอน

“การเบิกจ่ายงบลงทุนของปี 2563 ในการก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ โซนซี ปัจจุบันเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 88% คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ครบทั้ง 100% หรือประมาณ 1,642 ล้านบาท”

ทั้งนี้ ในปี 2564 คาดว่าจะใช้งบลงทุนในการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะสามารถเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ถือว่าเป็นการตอบรับตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และเป็นการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นการขับเคลื่อนให้มีกระแสเม็ดเงินไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง