ททท.เปิดครั้งแรกจุดขายวิจิตร @นครศรีธรรมราช 15 จุด ดึงทัวร์สายมู-ศรัทธาเสพศิลปะวัดวังพุทธ-พราหมณ์-ฮินดู



  • ททท.ทุ่มลงทุนเนรมิตเมืองครั้งแรกวิจิตร@นครศรีธรรมราช” 15จุดเที่ยวแสงสีสวย
  • ดึงนักท่องเที่ยวสายมูสายศรัทธาเฮเที่ยวใต้20-27..66
  • ชมศิลปะสถาปัตยกรรมสวนวัดวังพร้อมเรื่องราวความรุ่งเรืองทั้งพุทธพาหมณ์ฮินดู

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงาน “นครศรีธรรมราช” รายงานว่า พร้อมเนรมิตเมืองเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชมฟรีถึงความเรืองรองยามค่ำคืนในงาน “วิจิตร@นครศรีธรรมราช ตอน “ศิลป์ศัทธามหานครฯ” ระหว่าง20-28 พฤษภาคม 2566 เวลา 18.00-24.00 .ตลอดถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชนับเป็นครั้งแรกของภาคใต้และนครศรีธรรมราชลงทุนเปิดมุมใหม่ทางศิลปะความงามตามแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวสายความเชื่อ&ศัทธา ยามค่ำคืนฉายแสงเรืองรองด้วยแสงสียามค่ำคืน  ให้ชมอย่างจุใจพร้อมคติ ให้ได้ร่วมเช็คอิน แชะ แชร์ อย่างมีความสุขถึง 15 จุด

จุดที่ 1  “เก๋งพระเจ้าตาก” คติ : ขออำนาจ บารมี เปิดให้เข้าชมศิลปะเก๋งจีนเก่าแก่อายุหลายร้อยปีเกี่ยวข้องกับพระเจ้าตากสินมหาราช ปัจจุบันตั้งอยู่ภายในวัดประดู่พัฒนาราม อำเภอเมือง

จุดที่2วัดวังตะวันตก คติ:ขอความสำเร็จการเรียนการศึกษามาร่วมเสพงานศิลปะสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของภาคใต้กุฏิกลิ่นสะตอมีอายุหลายร้อยปีของวัดวังตะวันตกเดิมเคยเป็นวังที่ประทับของเจ้าจอมมารดาปราง

จุดที่ 3 สวนพระเงิน พระเจดีย์ยักษ์ คติ : ขอความเจริญก้าวหน้ายิ่งใหญ่กับธุรกิจต่อไป เพลิดเพลินเจริญตากับศิลปะเจดีย์เก่าแก่แบบลังกา ขนาดยักษ์สูงใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอดีต (รองจากเจดีย์พระบรมธาตุรวมทั้งเดินทางออกมาร่วมค้นหาปริศนาพระธาตุไร้เงา&พระธาตุยอดหัก ซด้านหน้าพระเจดีย์มีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อเงินองค์ใหญ่ สมัยอยุธยา  

จุดที่4ศาลหลักเมือง (นครศรีธรรมราช)คติ:ขอพรจตุคามรามเทพ(สี่พักตร์)หรือเทวดารักษาเมืองเสริมสิริมงคลตื่นตากับศิลปะภาคใต้แบบศรีวิชัยแบบโบราณแห่งเมืองนครศรีธรรมราชเรียกว่าทรงเหมราชลีลา

จุดที่5ททท.นครศรีธรรมราช คติ:มานะมานครฯมาหาข้อมูลท่องเที่ยวเมืองนครกันมาสัมผัสอาคารโบราณศรีธรรมราชสโมสรที่มีความเกี่ยวเนื่องข้องกับงานเทศกาลเดือนสิบเมืองนครฯและได้รับพระราชทานรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นประจำปี2537”สมาคมสถาปนิกสยามจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

จุดที่ 6 หอพระสูง    คติ :ไหว้พระ หอพระประจำเมืองเสริมสิริมงคลกับสมาชิกในครอบครัว โดดเด่นด้วยศิลปะ พระวิหารสูง (หอพระสูงโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งในเมืองนครศรีธรรมราช เป็น “พระวิหาร” หอพระประจำเมืองสร้างบนเนินดินสูงที่ขุดจากคลองควน สร้างเลียนแบบตามคติจีนลัทธิเต๋า เป็นพุทธสถาน” ผสมผสานกับเทวสถานกราบไหว้ฟ้าดิน ของจักรพรรดิหรือฮ่องเต้หรือกษัตริย์” ซึ่งเปรียบเป็นโอรสสวรรค์ หอพระสูง ด้านหน้าเป็นบันไดทางขึ้นเสมือนสะพานสู่สวรรค์ภายในหอพระสูง ประดิษฐานพระพุทธรูป ”ปางมารวิชัย” (พระพุทธรูปปูนปั้นแกนดินเหนียวและพระวิหารสูง (หอพระสูงแห่งนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเจ้าพระยานคร 

จุดที่ 7 ศาลาประดู่หก&สวนขวัญ ชมร่องรอย สวน&ศาลาที่พักพิงหน้าประตูเมืองเก่า(ด้านเหนือ)ของเมืองนครศรีธรรมราช คล้ายกับศาลาริมทางในชนบทสำหรับให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้หยุดพักหลบเเดดฝน ในอดีตเป็นจุดนัดพบ เสมือนสภากาแฟพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องราวต่างๆ หรือเป็นที่พักแรมแก่ผู้คนที่เดินทางไกลพักแรมรอประตูเมืองเปิดถึงจะเข้าเมืองนครศรีธรรมราชได้  แต่เนื่องจากศาลานี้มีต้นประดู่ขึ้นเรียงรายอยู่ 6 ต้น ผู้คนจึงเรียกตามสำเนียงชาวใต้ว่า “หลาโดหก” หรือศาลาประดู่หกนั่นเอง 

  จุดที่ 8 กำแพงเมืองเก่านครศรีธรรมราช (ด้านซ้ายและขวา)    คติ : มาถ่ายรูป เช็คอิน ย้อนอดีตเมืองนครฯ อีกมุมศิลปะสมัยใหม่เทคโนโลยีสมัยใหม่ มาเล่นแสงสีกับกำแพงเมืองที่เคยปกป้องเมืองจากข้าศึก เป็นโบราณสถานสำคัญแสดงถึงความเก่าแก่ ความแข็งแกร่ง ความเจริญรุ่งเรือง และประวัติศาสตร์มาถึงปัจจุบัน

จุดที่ 9 อนุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช คติ : ขอพร “พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช” ปฐมกษัตริย์จากอินเดียที่เดินทางมาสร้างเมืองนครศรีธรรมราช เรื่องราวแห่งปฐมกษัตริย์ ต้นราชวงศ์ปทุมวงศ์แห่งอาณาจักรตามพรลิงก์ ผู้สร้างเมืองนครศรีธรรมราช(จากชุมชนเก่าแก่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งมีชื่อเรียกว่าตามพรลิงก์” บนหาดทรายแก้ว

จุดที่ 10 บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เสมาชัย คติ : เสริมสิริมงคล มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง แก้คุณไสยนานาชนิด เรียนรู้ศาสตร์และศิลป์ “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดเสมาชัย” เป็นบ่อน้ำตั้งอยู่ทางทิศอีสานของวัด หมายถึงเครื่องหมายแห่งชัยชนะ ในอดีตพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช โปรดสร้างวัดนี้ขึ้นหลังได้รับชัยชนะหัวเมืองฝ่ายใต้ จึงทำบ่อน้ำน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นในวัดเสริมสิริมงคล เป็นบ่อพระพุทธมนต์ และใช้ดื่มกิน และประกอบพิธีและพระราชพิธีต่าง   

  จุดที่ 11 หอพระนารายณ์(ศาสนาฮินดู)    คติ : ขอพรความสุข จาก เทพเจ้าแห่งความเมตตา หอแห่งนี้เรียกอีกชื่อว่าพระวิษณุ” เป็นเทพหนึ่งในสามของศาสนาฮินดู (ตรีมูรติพระพรหมเป็นผู้สร้าง พระวิษณุเป็นผู้รักษา พระศิวะหรือพระอิศวร เป็นผู้ทำลาย ถือเป็นเทวสถานของพรามณ์ลัทธิไวษณพนิกายซึ่งนับถือพระนารายณ์ เป็นเทพสูงสุด ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและ ประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทรายพระหัตถ์ขวาทรงสังข์ ประดิษฐานอยู่ในหอเทวสถาน

จุดที่ 12 หอพระอิศวรและศิวลึงค์ 1,500 ปี คติ : ขอพร ปัดเป่า ทำลายล้างสิ่งชั่วร้าย ให้หายไป เป็นโบราณสถานศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา มีเสาชิงช้า ใช้ในพิธียัมปวายและตรีปวายของพราหมณ์ เมืองนคร และเป็นต้นแบบเสาชิงช้าในกรุงเทพฯ ด้วย

จุดที่ 13 หอพระพุทธสิหิงค์ คติ : สักการบูชา และขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล ร่มเย็นเป็นสุข เดิมเป็นหอพระประจำวังของเจ้าพระยานคร พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ของชาวนครฯ มีพระรูปงดงามมาก ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร แบบขนมต้ม มีพระพักตร์กลม อมยิ้ม พระอุระอวบอ้วน ประทับนั่งในท่าขัดสมาธิเพชร ชายสังฆาติสั้น วัสดุสัมฤทธิ์ 

จุดที่ 14 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร  คติ : เกิดมาหนึ่งชาติต้องมากราบพระธาตุเมืองนครฯ หนึ่งในพระธาตุไร้เงาเป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า (พระทันตธาตุหรือพระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้ายส่วนยอดของเจดีย์หุ้มด้วยทองคำแท้ วัดมีประเพณีที่สำคัญประจำทุกปี คือ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ การนำผ้าผืนยาว ”ผ้าพระบฎ” ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา คือ วันวิสาขบูชา และ มาฆบูชา

จุดที่ 15วัดท้าวโคตร คติ : ขอความสุขอบอุ่นในการครองเรือนให้กับครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุข เป็นวัดโบราณเก่าแก่วัดหนึ่งอยู่คู่เมืองนครมาอย่างยาวนาน เคยเป็นศาสนสถานพราหมณ์ ส่วนวัดท้าวโคตร หมายถึงวัดกษัตริย์พระองค์แรกพญาศรีธรรมโศกราชที่ 1 ปกครองเมืองนครศรีธรรมราช สร้างขึ้น 

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน#gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen