

- “จักรกฤศฏิ์”ประชุม Staff Meeting ทำความเข้าใจพนักงานร่วมสู้ฟื้นฟูกิจการ
- ลุ้นก่อนถึง 17 ส.ค.นี้ วันศาลล้มละลายกลางนัดไต่สวนครั้งแรก
- ยืนยันยังไม่ปลดคนออกขอเวลา1 ปีทำแผนโครงสร้างบริษัทที่ชัดเจน
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังให้ข้อมูลแก่พนักงานการบินไทยเกี่ยวกับ การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัท ในการประชุม Staff Meeting ผ่านระบบออนไลน์ ว่า ได้แจ้งแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ และพนักงานจนกว่าจะถึงวันที่ 17 ส.ค.ปีนี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลล้มละลายกลาง นัดไต่สวนครั้งแรกก่อนที่จะมีคำสั่งต่อไปว่า จะสั่งให้การบินไทยเข้าแผนฟื้นฟูเมื่อใด อย่างไรก็ตามรวมทั้งมีการแต่งตั้งผู้บริหารแผนฯใครบ้าง โดยมีการแจ้งให้พนักงานทราบว่า ขณะนี้มีการเจรจากับเจ้าหนี้ต่างๆ ทั้งผู้ให้เช่าเครื่องบิน เงินกู้ การค้า โดยฝ่ายบริหารย้ำให้พนักงานต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทุกด้านต่อไป โดยแนวทางการจัดทำแผนฟื้นฟูนั้นหลักๆ ต้องทำให้ เจ้าหนี้ และศาล เชื่อว่า กิจการของการบินไทยสามารถไปต่อได้
สำหรับกรณีที่เกี่ยวข้องปัญหาการมีเครื่องบินหลายแบบ เครื่องยนต์หลายประเภท เครื่องเก่าๆ ต้องมารีวิวว่า จำนวนเครื่อง ควรจะมีเหลือเท่าไหร่ เพื่อเหมาะกับการดำเนินงานในอนาคต ตามแผน
เส้นทางการบิน ซึ่งก็เป็นเหมือนกันทั่วโลก พอหมดการระบาด Covid-19 แล้ว ยังคาดการณ์ไม่ได้ ว่าธุรกิจการบินจะเป็นยังไง
นายจักรกฤศฏิ์ กล่าว่า ส่วนเรื่องจะกลับมาทำการบินนั้น ได้สั่งการให้ฝูงบิน standby และพร้อมบิน แต่ ต้องดู สถานการณ์รวมๆ ทั้ง ต้นทาง และ ปลายทาง แต่คาดว่า ต้นทางการบิน คือ ประเทศไทย อาจจะเปิดบิน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้ แต่ก็ต้องไปดูประเทศปลายทางอีก ว่ามีประเทศใดเปิดบ้าง และมีกักตัว 14 วันไหม คนจะกลับมาเริ่มเดินทางหรือไม่ โดยสรุป ยังไม่ทราบแน่ชัดเรื่องการกลับมาบินโดยต้องรอข่าว การประกาศ แต่ละพื้นที่อีกครั้ง แต่ในส่วนของโครงสร้างฝูงบินของการบินไทย เครื่องบินน้อยลง และเส้นทางบินจะน้อยลงแน่นอน
ทั้งนี้ยืนยันว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 63 เป็นต้นไป จะมีการเตรียมนำ ระบบขายตั๋ว ใหม่ จะออกมา เน้น ราคาเดียว เพิ่มสัดส่วนการขายผ่าน online website เดิมในอดีตที่มีการขายผ่านเอเย่นต์เป็นหลัก ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานะของพนักงานทุกคน มีการย้ำว่า สถานการณ์ปัจจุบันพนักงานทุกคน ยังอยู่ในสถานะพนักงานของบริษัท และช่วงนี้ ยังไม่มีการเอาคนออกแน่นอน ต้องรอรายละเอียดแผนฟื้นฟูที่ชัดเจน เมื่อแผนเสร็จ ชัดเจนแล้ว ถึงจะมาดูเรื่องโครงสร้างองค์กรคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี ถึงจะมีความชัดเจน แล้วจึงจะมีมาตรการมาแจ้งอีกที โดยย้ำว่าการปรับโครงสร้าง และ การมีทิศทางของธุรกิจที่แน่นอน และอาจจะไม่จำเป็นต้องปลดพนักงานออกเยอะก็ได้ แต่อาจจะมีการย้ายคน แบบหมีนเวียน (Rotation) ไปเทรนนิ่ง เพื่อไปช่วยงานในหน่วยงานที่ทำรายได้ได้ดี และอาจจะขาดกำลังคน โดยปัจจุบันไม่อยากให้กังวล อยากให้ร่วมมือร่วมใจแก้ปัญหากันไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามส่วนเรื่องการลดเงินเดือน โดยความสมัครใจ ฝ่ายบริหารแจ้งว่าเป็นการขอความร่วมมือ จาก บริษัท ตามอัตราที่มีการประกาศ เป็นการขอความร่วมมือแบบสมัครใจ อันเนื่องมาจากกระแสเงินสด( cash flow ) การทำแบบนี้ เพื่อพยายามรักษา cash flow ไว้ให้อยู่ได้หลายๆเดือน เพราะตอนนี้ บริษัทฯจะไปกู้ที่ใดคงไม่ได้ ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าพนักงานไม่ลดเงินเดือนจะอยู่ได้นานแค่ไหน ฝ่ายบริหารแจ้งว่าการลดเงินเดือน 3 เดือน จะยืดให้มีสภาพคล่องจ่ายเงินเดือนได้อีก 1 เดือนทหรือเงินเดือน 1 เดือน จะลดเงินไปได้ประมาณ 300 ล้าน.