

- กองสลาก เปิดขายตามปกติ
- ยันไม่เลื่อนออกรางวัลวันที่ 16 พ.ค.นี้
- เล็งออกใบอนุญาตให้ขายสลากข้ามเขตได้
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.63 มีมติเห็นชอบให้กลับมาขายสลากตามปกติ ในงวดวันที่ 1 มิ.ย.63 และเปิดระบบการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ตามปกติ หลังจากที่หยุดการขายมา 3 งวด คือ 16 เม.ย.2563 , 2 พ.ค.2563 และ 16 พ.ค.2563 และคงมติให้เลื่อนการออกรางวัลในงวด 1 เม.ย.2563 เป็นไปออกรางวัลในวันที่ 16 พ.ค.2563 นี้ตามเดิม
สำหรับการออกสลากจะยึดแนวทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีการจำกัดจำนวนผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ออกรางวัล มีการทำความสะอาดพื้นที่ อุปกรณ์ออกรางวัล และอุปกรณ์ออกรางวัล ด้วยน้ำยาทำความสะอาดและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ รวมถึงการจัดสถานที่เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เจ้าหน้าที่ทุกคนรวมถึงกรรมการออกรางวัลจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ
ทั้งนี้สำนักงานสลากเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้ สามารถขายสลากได้ตามปกติแล้ว แต่ยังมีติดปัญหาเรื่อง การขายข้ามเขต เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามจังหวัดอย่างเข้มข้น ซึ่งเรื่องนี้ได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดรับไปดูแล และออกใบอนุญาตให้ผู้ค้าที่ไม่มีความเสี่ยงสามารถเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อขายสลากได้
นายพชร กล่าวว่า สำนักงานสลากจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าที่จะจองซื้อสลากในงวดวันที่ 1 มิ.ย.2563 ทุกคนทราบว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน การซื้อขาย อาจจะยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ การรับสลากไปขายอาจมีความเสี่ยงขายไม่หมดและจะกลายเป็นภาระที่ต้องแบกรับไว้ รวมทั้งออกข้อแนะนะผู้ซื้อ ให้ซื้อสลากจากผู้ขาย ที่มีการใส่หน้ากาก มีเจลล้างมือ มีผ้าคลุมแผง เพื่อลดความเสี่ยงติดโควิด-19 ซึ่งหลังจากนี้ กองสลากจะส่งชุดหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ ให้ผู้ค้าทุกรายที่จองซื้อสลากกับสำนักงานสลาก
ส่วนเรื่องการสลากออนไลน์นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ร่วมหารือและให้ข้อมูลเพิ่มเติมในคณะกรรมการศึกษาสลากรูปแบบใหม่ ที่มีนายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากฯ เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้สลากออนไลน์ยังอยู่ในขั้นศึกษารูปแบบต่างๆ เท่านั้น ส่วนการประชุมบอร์ดสลากครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 16 พ.ค.63 แน่นอน และอาจมีการประชุมถึงเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด