

- แจงดราม่าครอบครัวเกษตรกรไม่ได้เงิน
- เหตุมีรายชื่อขึ้นทะเบียนอาชีพเกษตรแล้ว
- เตรียมทำปุ่มยื่นอุทรณ์ให้ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาทว่า หลังจากตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์แล้วพบว่าในรอบที่ 1 มีการตรวจสอบคัดกรองไปแล้ว 7.99 ล้านราย โดยจำนวนนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผ่านเกณฑ์ 1.68 ล้านราย ซึ่งทยอยส่งข้อความ SMS แจ้งผลการพิจารณาและโอนเงินเข้าบัญชีหรือพร้อมเพย์ที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วในช่วงวันที่ 8-10 เม.ย.63 ที่ผ่านมา
ส่วนกลุ่มที่ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม 1.53 ล้านราย ให้ไปกรอกแบบสอบถาม ที่www.เราไม่ทิ้งกัน.com(หัวข้อ ขอข้อมูลเพิ่มเติม) ภายใน 10วัน นับจากวันที่ได้รับ SMS เพื่อการประมวลผลที่รวดเร็ว ซึ่งได้เริ่มทยอยส่ง SMS แจ้งผลการพิจารณาแล้วตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.63 และจะทยอยแจ้งไปจนถึงวันที่ 13 เม.ย.63 ซึ่งขณะนี้ได้มีผู้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วจำนวนหลายแสนราย
ส่วนกลุ่มไม่ผ่านเกณฑ์ 4.78 ล้านราย จะทยอยได้รับ SMS แจ้งผลการพิจารณาในช่วงวันที่ 12-14เม.ย. 2563 โดยส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากได้รับการดูแลผลกระทบจาก โควิด-19 โดยรัฐบาลผ่านช่องทางอื่น เช่น ข้าราชการ ผู้รับบำนาญ ผู้ได้รับสิทธิ์ประกันสังคม เกษตรกร เป็นต้น หรือกลุ่มที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น นักเรียน นักศึกษา ซึ่งยังคงไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลัก และส่วนหนึ่งได้รับการดูแลผ่านช่องทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) หรือกลุ่มที่ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น ผู้ค้าขายออนไลน์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ตามที่มีกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ถึงการไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากสาเหตุต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นประกอบอาชีพอื่นแต่ถูกระบุว่าทำเกษตรกรนั้น ขอชี้แจงว่า เกษตรกรจะมีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทุกปีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการขึ้นทะเบียนจะเป็นราย “ครอบครัว” โดยให้หัวหน้าครอบครัวเป็นคนมาขึ้นทะเบียนและกรอกรายละเอียดสมาชิกในครอบครัว ซึ่งจะให้ระบุด้วยว่ามีสมาชิกในครอบครัวกี่คน เป็นใครบ้าง และสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยทำเกษตรกรรมมีกี่คน คือใครบ้าง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลใช้ฐานข้อมูลเกษตรกรชุดเดียวกันนี้ในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร อาทิ ค่าเพาะปลูก ค่าเก็บเกี่ยว ค่าปัจจัยการผลิต เป็นต้น
ดังนั้น ในการคัดกรองของมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ครอบครัวที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยทำเกษตรกรรม จึงถือว่าเป็นกลุ่มเกษตรกร ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์ อย่างไรก็ตามในส่วนของเกษตรกรรัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาในเร็วๆ นี้
ส่วนกรณีผู้ที่ลงทะเบียนเคยกู้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) และถูกจัดอยู่ในกลุ่มนักศึกษานั้น ไม่ใช่ว่าเคยกู้ กยศ. แล้วจะต้องเป็นนักศึกษาตลอดไป เพราะระบบจะตรวจสอบจากฐานข้อมูลนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศในปัจจุบัน
นอกจากนี้ เมื่อปิดรับลงทะเบียนและได้คัดกรองผู้ลงทะเบียนครบถ้วนทั้งหมด 27 ล้านรานแล้ว จะเปิดให้มีช่องทางการอุทธรณ์ผลการพิจารณาสำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งผู้ที่ผ่านการอุทธรณ์ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาครบทั้ง 3 เดือนเช่นเดิม เนื่องจากการให้เงินเยียวยาจะใช้วันลงทะเบียนในการเริ่มนับสิทธิ์
” การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ลงทะเบียนยังคงจะต้องใช้เวลาอีกระยะโดยกระทรวงการคลังจะทยอยแจ้งผลการคัดกรองและโอนเงินเยียวยาอย่างต่อเนื่องตลอดทุกวันทำการ โดยในรอบที่2จะเริ่มทยอยส่ง SMS แจ้งผลและโอนเงินเยียวยาในช่วงวันที่ 13-14 เม.ย. 2563 ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ประมาณ 600, 000 ราย”