มีรายงานข่าวจากประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ (ยูเออี) ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ขึ้นทะเบียนการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัท Sinopharm ในเครือ CNBG ของจีนซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตายเข้าสู่เฟรสที่ 3 เป็นรายแรกในโลก โดยเริ่มต้นการทดลองที่เมืองอาบูดาบี
ทั้งนี้ ชีค อับดุลลาห์ บิน โมฮัมเหม็ด อัลฮาเมด ประธานกรมอนามัยอาบูดาบี นับเป็นอาสาสมัครรายแรกในโลกที่เข้ารับการทดลองในวัคซีนเฟส 3 ดังกล่าว ขณะที่ ดร.ดร. จามาล อัลคาคา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นคนที่สอง แสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลยูเออี และหน่งยงานด้านสุขภาพ ที่จะเอาชนะไวรัสโควิดผ่านความร่วมมือระดับโลกพเพื่อค้นหาวิธีการรักษาที่ท้าทายที่สุดสำหรับมนุษยชาติในศตวรรษที่ 21
การทดลองในเฟสดังกล่าวเป็นผลจากความร่วมมือ ระหว่าง G42 Healthcare ในอาบูดาบีกับ Sinopharm CNBG ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่อันดับหกของโลก
การทดลองนี้ดำเนินการโดยผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพจากอาบูดาบีเฮลธ์เซอร์วิสเซสซึ่งจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่คลินิกห้าแห่งใน “อาบูดาบี” และ “อัลอายิ” นอกเหนือจากคลินิกเคลื่อนที่เพื่อให้มั่นใจว่าอาสาสมัครสามารถเข้าร่วมโครงการได้
ยูเออีเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับความร่วมมือในการดำเนินการทดลองระยะที่ 3 เนื่องจากประเทศนี้มีประชากรมากกว่า 200 เชื้อชาติทำให้สามารถทำการวิจัยที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มความเป็นไปได้ในการใช้ทั่วโลก
หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ออกใบอนุญาตให้อาสาสมัครจำนวน 15,000 คนเข้าร่วมในการทดลอง โดยในขั้นแรกจะเริ่มที่ 5,000 คน
การทดลองทางคลินิกเฟส 3 เป็นไปตามความสำเร็จของการทดลองเฟสแรก และเฟสที่สอง จัดทำโดย Sinopharm ในประเทศจีนซึ่งส่งผลให้อาสาสมัครสร้างแอนติบอดี 100 เปอร์เซ็นต์หลังจากได้รับปริมาณสองครั้งใน 28 วัน การทดลองระยะที่ 3 จะเปิดให้อาสาสมัครรายบุคคลที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 60 ปีและจะใช้เวลา 42 วันโดยเริ่มต้นในวันที่ 17 กรกฏาคมที่ผ่านมา