กอนช.แจ้งเตือนระดับน้ำ “เขื่อนอุบลรัตน์” เข้าสู่วิกฤต ต้องระบายน้ำเพิ่ม



  • ส่งผลทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนมีระดับน้ำสูงขึ้น กระทบต่อพื้นที่ลุ่มใน อ.อุบลรัตน์ อ.เขาสวนกวาง อ.ซำสูง อ.น้ำพอง และอ.เมือง จ.ขอนแก่น 
  • พร้อมเฝ้าระวังพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำชี ตั้งแต่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และยโสธร
  • ด้านเขื่อนเจ้าพระยา จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ 
  • เผยปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนอยู่ในอัตรา 2,900–3,000 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่ 8 ต.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ดังนี้ บริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนลดลง แต่บริเวณภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

ทั้งนี้ กอนช.ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 48/2565 เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำชี โดยติดตามปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนอุบลรัตน์อย่างต่อเนื่องมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนประมาณ 170 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ซึ่งสามารถระบายออกได้เพียงวันละ41 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มจนเกินระดับเก็บกักสูงสุด และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ระดับน้ำ+183.35 เมตรเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) สูงกว่าระดับเก็บกักปกติ 1.15 เมตร โดยปัจจุบันมีปริมาตรน้ำ 2,878 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 119% มีปริมาตรเกินความจุ 458 ล้าน ลบ.ม.

นอกจากนี้ ยังได้ออกประกาศ ฉบับที่ 49/2565 เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์(C.2) อยู่ในเกณฑ์ 3,077 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลมารวมกับแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา โดยกรมชลประทานได้พิจารณารับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออกเต็มศักยภาพคลองที่สามารถรองรับน้ำได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ +17.64 ม.รทก. ซึ่งสูงกว่าระดับเก็บกัก 1.14 เมตร (+16.50 ม.รทก.) เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของบานระบายน้ำและตัวเขื่อนเจ้าพระยา จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ +17.60 ม.รทก. ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตรามากกว่า 2,900–3,000 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2565 

โดยประกอบกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ คาดการณ์ระดับน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ จ.สมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติโดยระดับน้ำจะมีความสูงประมาณ 1.90–2.20 ม.รทก.ในช่วงวันที่ 8-13 ต.ค. 2565

กฟผ.แจ้งเขื่อนอุบลรัตน์วิกฤต

ด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีหนังสือถึง กอนช.แจ้งเตือนระดับน้ำเขื่อนอุบลรัตน์เข้าสู่สภาวะวิกฤต ระดับ 3 คาดการณ์ว่า ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับวิกฤต หรือสูงกว่าคันดินโนนสังซึ่งเป็นคันดินป้องกันชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบเขื่อนอุบลรัตน์ ดังนี้ 1.ระดับน้ำจะสูงถึงระดับเตือนภัย (+183.50 ม.รทก. )ในวันที่7 ต.ค.2565

2.ระดับน้ำจะสูงถึงระดับวิกฤต (+184.00 ม.รทก.) ในวันที่ 8 ต.ค. 2565 เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของตัวเขื่อน กฟผ.จึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำตั้งแต่วันเดียวกันนี้ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนอุบลรัตน์มีระดับน้ำสูงขึ้น และอาจกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำใน อ.อุบลรัตน์อ.เขาสวนกวาง อ.ซำสูง อ.น้ำพอง และ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปัจจุบันจะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก และเฝ้าระวังพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำชี ตั้งแต่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ร้อยเอ็ด และยโสธร