- ผนึกกรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก สำนักงาน ประกันสังคม ทดลองใช้
- จับมือ“เอไอเอส-ธนาคารกรุงเทพ” หนูทดลอง ก่อนเปิดให้บริการจริงไตรมาส 2 ปี 2563
- เตรียมการรองรับเข้าสู่สังคมดิจิทัล
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช.ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ กรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานประกันสังคม เพื่อการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือที่เรียกในชื่อ Mobile ID หรือ “แทนบัตร” เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมดิจิทัลของคนไทย โดยเฉพาะการให้บริการทางการเงิน ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ที่ผ่านมา กสทช.ได้พัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนมือถือ หรือ” Mobile ID “ใช้ แทนบัตรประชาชน โดยเริ่มทดสอบการใช้งานระหว่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อเตรียมรองรับการทำธุรกรรมยุคดิจิทัลให้มีความสะดวก และปลอดภัย ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมที่จะขยายการให้บริการ Mobile ID ไปยังหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานประกันสังคม เพื่อร่วมกันพัฒนาการให้บริการกับประชาชนและส่งเสริมการใช้ดิจิทัลไอดีในอนาคต
“ในช่วงทดลองการใช้ระบบ Mobile ID นั้น เบื้องต้นจะใช้ได้เฉพาะผู้ใช้บริการเอไอเอส ซึ่งต้องลงทะเบียนทดลองใช้ ได้ที่ศูนย์บริการ จากนั้นจะมีการสร้างรหัสคิวอาร์โค้ดส่วนบุคคล ซึ่งมีข้อมูล ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์มือถือ และรหัสใบหน้า และจะทดสอบการใช้ Mobile ID ได้ที่ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงการจัดเก็บข้อมูล เพื่อนำมาปรับปรุบระบบให้ดีมีประสิทธิภาพ ก่อนเปิดให้บริการประชาชนต่อไป คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 2 ปีนี้ และหลังจากนั้นจึงจะขยายการให้บริการไปยังค่ายมือถืออื่นๆ “
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การเข้าร่วมพัฒนาโครงการ Mobile ID ในครั้งนี้ จะใช้ประโยชน์สำหรับการพัฒนาการให้บริการประชาชนในด้านต่าง ๆ เช่น การออกใบอนุญาตขับรถ การดำเนินการทางทะเบียนรถบางประเภท และการทำธุรกรรมต่างๆ กับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งต่อไปในอนาคตกรมการขนส่งทางบกจะพิจารณานำระบบ Mobile ID ที่จะดำเนินการนี้ ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนในการขอใบอนุญาตขับรถอิเล็กทรอนิกส์ อย่างเต็มรูปแบบต่อไป
ขณะที่นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ความร่วมมือในโครงการ Mobile ID นี้ ถือว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการให้บริการด้านต่างๆ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึงสิทธิประกันสังคมให้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา ตลอดจนสามารถลดเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ลงได้โดยเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชน โดยการพิสูจน์และยืนยันตัวตนนั้น จะสามารถยืนยันความเป็นเจ้าของสิทธิ์ที่แท้จริงได้ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในการรับบริการต่างๆจากสำนักงานประกันสังคม
ส่วนนายวีนัส สีสุข รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า การดำเนินงานร่วมกับ กสทช. ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกัน และการใช้ Mobile ID จะสามารถยืนยันตัวตนของประชาชนที่มาใช้บริการกับกรมการปกครองได้อย่างถูกต้อง ถือเป็นก้าวแรกที่จะโดยไม่ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน ทั้งยังจะสามารถให้บริการประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น
นายกึกก้อง รักเผ่าพันธุ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า การพัฒนาระบบMobile ID ร่วมกับกสทช. เอไอเอส ตั้งแต่เร่ิมต้นโครงการนั้น เพื่อความปลอดภัยในการให้บริการทางการเงิน ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่ธนาคารจะต้องยืนยันตัวบุคคลของลูกค้าได้อย่างถูกต้องก่อนทำธุรกรรม ในขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มความมั่นใจและความน่าเชื่อถือให้กับสถาบันการเงินในการให้บริการได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
