กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมมือญี่ปุ่นรับมอบเครื่อง Super Sonic Wave Dryer



  • นวัตกรรมเครื่องอบแห้งอาหารเทคโนโลยีใหม่
  • ใช้ระบบท่อนำความร้อนของคลื่น
  • ทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสอาหารคงเดิม

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผู้บริหารของจังหวัดเอฮิเมะจากประเทศญี่ปุ่น ได้นำผู้แทนของ บริษัท N.S. Corporation จำกัด ที่เป็นผู้ ผลิตและจำหน่ายเครื่องคัดแยกน้ำหนัก และเครื่องแปรรูปอาหาร ได้มอบเครื่อง Supersonic Wave Dryer ซึ่งเป็นเครื่องอบแห้งอาหาร ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ โดยใช้ระบบท่อนำความร้อนของคลื่น ถอดแบบจากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสอาหารคงเดิม จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 35,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ฯ มามอบให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) จะได้นำไปติดตั้ง ณ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC 4.0) ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้ในการส่งเสริม พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ให้กับเอสเอ็มอีของไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่มีพืชผลทางการเกษตรที่มีศักยภาพและหลากหลาย

“กสอ. มีศูนย์ ITC 4.0 ตั้งอยู่ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเป็นกลไกที่จะช่วยสนับสนุนให้เอสเอ็มอี ได้ทดลองใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัย เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีแปรรูปผลิตภัณฑ์ ทางการเกษตร และการได้ร่วมมือกับจังหวัดเอฮิเมะคร้ังนี้ จะสามารถพัฒนาเอสเอ็มอี ในสาขาอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการของทั้งสองฝ่ายต่อไป เพราะจังหวัดเอฮิเมะ มีความโดดเด่นใน กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและการแปรรูปอาหาร

นายสุริยะ กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นมีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมของไทย โดย9เดิือนแรก(ม.ค.-ก.ย.) ของปีท่ีผ่านมา ญี่ปุ่นได้รับการอนุมัติการลงทุนโดยตรง (FDI) ในประเทศไทยเป็นอันดับ 1 คิดเป็นมูลค่า 62,000 ล้านบาท หรือ27% ของมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด โดยปัจจุบัน มีนักลงทุนญี่ปุ่นในไทย6,000 กิจการ ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญ ๆที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนคือ อุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปอาหาร

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายในการพัฒนาความร่วมมือ ทั้งกับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น ที่ผ่านมา กสอ. ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู ) กับหน่วยงาน ต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศญี่ปุ่น รวม 30 ฉบับ โดยเป็นการลงนาม เอ็มโอยู กับรัฐบาลท้องถิ่นของญี่ปุ่น21 จังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มอุตสาหกรรมจากจังหวัดเอฮิเมะ ตัดสินใจเลือกมาลงทุนในไทยแล้ว15 บริษัท โดยลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร อาหารแปรรูป พลาสติก และเคมีภัณฑ์ มียอดลงทุน 5,000 ล้านบาท