

- ผู้ประกอบการค้าส่ง และตลาดสด ส่วนใหญ่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน
- แต่ต้องเพิ่มความเข้มงวดเว้นระยะห่าง ลดการแออัดในพื้นที่
- การจัดพื้นที่จำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม ป้องกันความเสี่ยงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการจากบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) และตัวแทนตลาดสดรวมใจ เมืองทองธานี แถลงข่าวว่า กรมอนามัย ได้สำรวจการประเมินตนเองของกลุ่มตลาด ผ่าน ThaiStopCovid ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคมถึง 17 มิถุนายน 2563 พบว่า ส่วนใหญ่ของผู้ประกอบการตลาดร้อยละ 67.44 ผ่านเกณฑ์การประเมินตามมาตรการหลักและมาตรการเสริมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยในส่วนของตลาดต้องกระตุ้นให้ประชาชนมีความตระหนักเพิ่มขึ้นใน 3 ด้าน ประกอบด้วย การจัดพื้นที่จำหน่ายและเครื่องดื่ม การเว้นระยะห่าง และการควบคุมการเข้าออกที่อาจส่งผลต่อความแออัดในการให้บริการ ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด นอกจากนี้ การประเมินตนเองของร้านค้าส่งพบว่า ร้อยละ 64.06 ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ สิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนดคือ การจัดสถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มของร้านค้าส่ง

แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อว่า เป็นที่น่ายินดีว่าผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการการผ่อนปรนมาถึงในระยะที่ 4 ได้เป็นอย่างดี แต่ยังต้องขอย้ำ 6 มาตรการหลักในการรักษาความสะอาด การใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ประกอบด้วย 1.การเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร 2.สวมหน้ากากทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน 3.ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่และน้ำ 4.ไม่อยู่ในที่แออัดและรักษาระยะห่าง 5.ทำความสะอาดจุดสัมผัสที่ใช้ร่วมกัน และ 6.มีระบบคัดกรองด้วยแพลตฟอร์มไทยชนะ
“จากการติดตามของกรมอนามัยพบว่า หากผู้ประกอบการมีความเคร่งครัดในการยึดเกณฑ์ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ประชาชนก็จะร่วมมือปฏิบัติตามเป็นอย่างดี อาทิ การเว้นระยะห่างถ้ากำหนดจุดชัดเจนประชาชนก็จะอยู่ห่างกัน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางแห่งมีมาตรการเสริมจากที่กำหนดไว้ เช่น การมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้เว้นระยะห่าง การจัดอุปกรณ์คีบอาหาร การทำฉากกั้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น