นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.)เปิดเผยว่า สำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวงได้สรุปปริมาณจราจรสำหรับช่วงระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 65 – 3 มกราคม 66 พบว่ามีจำนวนปริมาณจราจรเข้าและออกกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 6,179,066 คัน โดยแบ่งเป็นฝั่งขาเข้าจำนวน 3,203,629 คัน และฝั่งขาออกจำนวน 2,975,437 คัน สำหรับปริมาณรถที่ใช้บริการทางหลวงพิเศษสายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) ช่วง ปากช่อง – สีคิ้ว – ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร ซึ่งเปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวทิศทางเดียว (วันเวย์) สำหรับรถขาออกระหว่างวันที่ 29 – 31 ธันวาคม 65 และสำหรับรถขาเข้าระหว่างวันที่ 1 – 4 มกราคม 66 นั้น ช่วงที่เปิดให้บริการสำหรับรถขาออก (ระหว่างวันที่ 29 – 31 ธันวาคม 65) มีจำนวนผู้ใช้บริการสะสม 3 วัน รวม 62,929 คัน สามารถแบ่งเบาปริมาณจราจรขาออกบนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) บริเวณ กม.75 ช่วงลำตะคอง ได้ถึง 24 % และช่วงที่เปิดให้บริการสำหรับรถขาเข้า (ระหว่างวันที่ 1 – 3 มกราคม 2566) มีจำนวนผู้ใช้บริการสะสม 3 วัน รวม 73,685 คัน สามารถแบ่งเบาปริมาณจราจรขาเข้าบนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) บริเวณ กม.75 ช่วงลำตะคอง ได้ 26 %
สำหรับในช่วงที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 65 – 3 มกราคม 66 กรมทางหลวงได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนตามจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 13,114 คน โดยมียอดผู้ใช้บริการสะสมรวม 6 วัน ดังนี้
?จุดให้บริการทั่วไทย 85,037 ราย ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 ที่ผ่านมามียอดผู้ใช้บริการ 11,576 ราย
? จุดบริการห้องน้ำ 163,251 ครั้ง
?รถบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 1,857 ครั้ง อาทิ การซ่อมเบื้องต้น แบตเตอรี่หมด น้ำมันหมด เป็นต้น
? ยอดการให้บริการสายด่วนกรมทางหลวง 1586 ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 3 มกราคม 2566 มียอดรวมการให้บริการ 16,810 ครั้ง
ในด้านการบริหารจัดการสัญญาณไฟจราจรจำนวน 113 แห่ง 16 สายทาง ปิดจุดทางแยก 80 แห่ง 26 สายทาง ปิดจุดกลับรถ 234 แห่ง 47 สายทาง รวมทั้งบริหารจัดการทางเข้า – ออกบริเวณสถานีบริการน้ำมันจำนวน 24 จังหวัด 69 แห่ง นอกจากนี้มีการเปิดช่องทางพิเศษบนทางสายหลักจำนวน 6 สายทาง ได้แก่ ทล.1 , ทล.2 , ทล. 204 , ทล.32 , ทล.304 และ ทล.348 เพื่อความคล่องตัวในการใช้รถใช้ถนนและช่วยป้องกันอุบัติเหตุบนทางหลวง
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถติดตามสภาพการจราจรแบบ Real Time ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น Thailand Highway Traffic และเว็บไซต์ http://www.highwaytraffic.go.th และกรมทางหลวงบูรณาการการทำงานร่วมกับตำรวจทางหลวงและหน่วยงานในพื้นที่ ตลอดจนศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนของจังหวัดในการลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมตั้งจุดให้บริการทั่วไทย 409 แห่ง แบ่งเป็นจุดให้บริการทั่วไทย (โดยแขวงทางหลวง/กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ) 119 แห่ง จุดให้บริการตำรวจทางหลวง 205 แห่ง และจุดให้บริการจุดพักรถบรรทุก 85 แห่ง (โดยสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ) รวมถึงการเปิดห้องน้ำบริการประชาชนภายในพื้นที่หมวดทางหลวงทั่วประเทศ 581 แห่ง ซึ่ง ณ จุดบริการทั่วไทยจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ การให้ข้อมูลเส้นทาง แนะนำเส้นทางเลือก บริการน้ำดื่ม รวมทั้งแอลกอฮอล์เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัส
และรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนทางหลวงสายหลักจำนวน 515 คัน เน้นการให้บริการกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน การซ่อมเบื้องต้น โดยเน้นให้บริการต่อประชาชนผู้ใช้ทางในเส้นทางสายหลักและครอบคลุมพื้นที่ในความรับผิดชอบของหมวดทางหลวงและการแจ้งเหตุผ่านสายด่วนกรมทางหลวง 1586 ตลอดจนศูนย์ประสานงานของแขวงทางหลวงทั่วประเทศ ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดูแลประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง
ทั้งนี้ กรมทางหลวงพร้อมดูแลด้านความสะดวกปลอดภัยการเดินทางของประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมขอความร่วมมือผู้ใช้ทางขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เตรียมร่างกายให้พร้อม หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมหรือขอความช่วยเหลือระหว่างการเดินทางสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 มอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และตำรวจทางหลวง 1193