

บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (“WHA Group”) ครึ่งปีแรกของปี 2567 โชว์กำไรสุทธิ 2,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% (YoY) แบ่งเป็นรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 7,080 ล้านบาท และกำไรปกติ 2,549 ล้านบาท ด้าน Group CEO “จรีพร จารุกรสกุล”ส่งซิกเล็งปรับเป้ายอดขายที่ดินใหม่สยายปีกรองรับนักลงทุนที่จ่อย้ายฐานการลงทุน
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WHA Group เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี2567ว่า ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของการเป็นผู้นำใน 4 กลุ่มธุรกิจ ทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนดิจิทัล ทั้งในประเทศไทยและเวียดนามได้เป็นอย่างดี
โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 7,273 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) และหากพิจารณาถึงผลประกอบการปกติ บริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 7,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และกำไรปกติ 2,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93% (YoY)
ขณะที่งวดไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 3,343 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,289 ล้านบาท โดยเป็นรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 3,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และกำไรปกติ 1,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
การเติบโตสะท้อนศักยภาพการเติบโตของ 4 กลุ่มธุรกิจ
อัตราการเติบโตดังกล่าว สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของ 4 กลุ่มธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ธุรกิจโลจิสติกส์ครึ่งแรกของปี 2567 มีการลงนามสัญญาเช่าโครงการ Built-to-Suit และโรงงาน/คลังสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มเติมรวม 33,699ตร.ม. และมีสัญญาเช่าระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูง จำนวน 88,344 ตร.ม.
ส่งผลให้มีพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารรวม 2,988,762 ตร.ม. โดยไตรมาส 2 และ 6เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้ารวม 343 ล้านบาท และ 640ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนความคืบหน้าของโครงการ Green Logistics ที่บริษัทฯ ได้มีการจัดตั้งบริษัท โมบิลิกส์ จำกัด แบรนด์ที่ให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้บริการรถขนส่งไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ บริการติดตั้งระบบชาร์จ สถานีชาร์จ
พร้อมด้วย MobilixPlatform แพลตฟอร์มที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ให้แก่ลูกค้า โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 มีลูกค้าภาคธุรกิจเซ็นสัญญาเช่าซื้อยานยนต์ไฟฟ้าแล้วกว่า 280 คัน
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมครึ่งปีแรก 2567 บริษัทฯ มียอดขายที่ดินรวม 1,042 ไร่ (ไทย 979ไร่ / เวียดนาม 63 ไร่) และมียอดเซ็น MOU รวม 756 ไร่ (ไทย 714 ไร่ / เวียดนาม 43 ไร่) โดยไตรมาส 2 และ 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 1,460 ล้านบาท และ 3,587 ล้านบาท
เนื่องจากการรับรู้ยอดการโอนที่ดินครึ่งปีแรกที่เติบโตมากกว่า 65% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการย้ายฐานการลงทุน และการผลิตมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ให้กับลูกค้ากว่า 879 ไร่ (ไทย 871 ไร่ / เวียดนาม 8ไร่)
ปัจจุบันบริษัทฯ มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนามทั้งหมด 77,600 ไร่ โดยเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการในประเทศไทย จำนวน 12แห่ง และยังมีโครงการขยาย/ พัฒนานิคมฯ ใหม่ 7 โครงการ บนพื้นที่รวมกว่า 9,430 ไร่ ส่งผลให้บริษัทฯ จะมีพื้นที่นิคมฯ รวมกว่า 52,650ไร่ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า สำหรับโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 5 (3,400 ไร่) ซึ่งอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในไตรมาส 1/2568 และ มีพื้นที่พร้อมขายภายในไตรมาส 2/2568
สำหรับประเทศเวียดนาม มีการเปิดดำเนินการเขตอุตสาหกรรมแล้ว ซึ่งมีพื้นที่ในการพัฒนารวม 22,815 ไร่ (3,650 เฮกตาร์) ประกอบด้วยเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 2 – เหงะอาน เฟส 1A/1B และเฟส 2 พื้นที่รวม 1,600 ไร่ (250 เฮกตาร์) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติใบอนุญาตสำหรับโครงการสำหรับเฟส 1A/1B พื้นที่ 1,200 ไร่ (189 เฮกตาร์) ภายในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายเขตอุตสาหกรรมใหม่อีก 3โครงการในจังหวัด Thanh Hoa และ Quang Nam เป็นพื้นที่รวมกว่า 9,690 ไร่ (1,550เฮกตาร์)
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมครึ่งปีหลังแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มการเติบโตได้ดีต่อเนื่องจาก ครึ่งปีแรก โดยเฉพาะธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ที่ได้รับอานิสงส์จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้เกิดกระแสการย้ายฐานการลงทุนและการผลิตมายังไทยมากขึ้น ประกอบกับราคาขายที่ดินเฉลี่ยที่ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดยภายในสิ้นปี 2567 นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินได้มากกว่าเป้าหมายการขายที่ดินที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปี 2567 ที่จำนวน 2,275 ไร่ และอยู่ระหว่างการเตรียมแผนการปรับเป้าหมายการขายที่ดินของปีนี้ใหม่ในเร็วๆนี้
ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ)บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจสาธารณูปโภครวมในไตรมาส 2 และ 6 เดือนแรกของปี 2567 เท่ากับ 761 ล้านบาท และ 1,531 ล้านบาท
บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : WHA Group ควง WHAUP-WHART-WHAIR ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2567