“TTAA” ลั่นยกเครื่องทัวร์ไทย ปลดล็อก VAT 0%-ชงรัฐปราบโกง

สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA) กระตุ้นการท่องเที่ยวสองทางเข้าออกประเทศไทยขานรับสายการบินเพิ่มจำนวนที่นั่งมากขึ้นตลอดปี 2567
สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA) กระตุ้นการท่องเที่ยวสองทางเข้าออกประเทศไทยขานรับสายการบินเพิ่มจำนวนที่นั่งมากขึ้นตลอดปี 2567


สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว “TTAA” ประกาศยกเครื่องอุตสาหกรรมทัวร์ไทย เปิดเกมรุก 3 ภารกิจด่วน “ซูเปอร์พาสปอร์ตไทย-ปลดล็อกภาษีเอาท์บาวนด์ VAT 0%-จัดระเบียบทัวร์โกง” ชงกรมการท่องเที่ยวใช้ยาแรงเพิ่มเงินค้ำประกันคุมโฮลเซล

โชติช่วง ศูรางกูร อุปนายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA)
โชติช่วง ศูรางกูร อุปนายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA)

นายโชติช่วง ศูรางกูร อุปนายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (Thai Travel Agents Association : TTAA) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว ในฐานะองค์กรที่ดูแลสมาชิก ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตลาดคนไทยเที่ยวใน และต่างประเทศเน้นทำภารกิจเร่งด่วน ขานรับการท่องเที่ยวเมืองไทย มีสัญญาณที่ดี เนื่องจากมีต่างชาติเดินทางเข้ามา 4 เดือนแรก มกราคม-เมษายน 2567 เกือบ 13 ล้านคน จึงมีแอร์ไลน์สทั่วโลกเพิ่มที่นั่งเป็นจำนวนมากสามารถทำการตลาดท่องเที่ยวสองทางได้ทั้งขาเข้า และขาออก เพื่อทำให้ทุกฝ่ายดำเนินธุรกิจอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วย 3 ภารกิจเร่งด่วน

ปี 2567 คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ชมธรรมชาติและงานคอนเสิร์ตขนาดใหญ่
ปี 2567 คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ชมธรรมชาติและงานคอนเสิร์ตขนาดใหญ่
  • ภารกิจที่ 1 Super Passport ผลักดันให้หนังสือเดินทางของคนไทยมีศักยภาพโดยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นคนไทยเดินทางระหว่างประเทศ

ตัวอย่าง การยกเว้นวีซ่าเข้าสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อไปน่าจะเป็นแชงเก้นวีซ่า ของยุโรปหลายประเทศตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศมาผลักดันมาตลอด ซึ่ง จะเป็นผลดีกับคนไทยที่จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลกด้วย

  • ภารกิจที่ 2 เจรจากับภาครัฐเพื่อปลดล็อกภาษีมูลค่าเพิ่มการท่องเที่ยวขาออกประเทศ (Outbound) 0 % เนื่องจากเป็นการบริโภคท่องเที่ยวในต่างประเทศ ดังนั้นบริษัทท่องเที่ยวไทยที่ดำเนินธุรกิจก็ไม่ควรจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว

ตอนนี้ทางสมาคมทีทีเอเอได้ดำเนินการศึกษามาสักระยะ พร้อมกับเข้าหารือกับทางอธิบดีกรมสรรพากรแล้วเช่นกัน ได้รับการแนะนำให้ไปดูโมเดลของประเทศอื่น ๆ มาเสนอให้เห็นภาพชัดเจน จึงได้นำแนวทางของ “ไต้หวัน” มาเป็นแบบอยู่ในขั้นตอนการหารือระหว่างกัน

หน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมการท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พยายามช่วยกันจับกุมบริษัทท่องเที่ยวที่กระทำผิดต่อนักท่องเที่ยวคนไทย
หน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมการท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พยายามช่วยกันจับกุมบริษัทท่องเที่ยวที่กระทำผิดต่อนักท่องเที่ยวคนไทย
  • ภารกิจที่ 3 ปรับภาพลักษณ์ธุรกิจของบริษัทจัดนำเที่ยว ซึ่งมีทั้งการทุจริต ทิ้งนักท่องเที่ยว แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เกี่ยวข้องกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

มีทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างบริษัทนำเที่ยวกับนักท่องเที่ยว หรือ business to consumer : B to C ส่วนที่ 2 ระหว่างบริษัทค้าส่งการท่องเที่ยว หรือ Wholesale กับบริษัทตัวแทนค้าปลีกการท่องเที่ยว หรือ Agent เป็นเรื่องระหว่าง business to business เมื่อโฮลเซลทิ้งเอเย่นต์หรือไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่สัญญาไว้ ก็ทำให้เอเย่นต์ต้องแบกรับภาระแทน

ในทางปฏิบัติกรมการท่องเที่ยวจะบังคับใช้กฎหมายโดยให้เอเย่นต์ต้องคืนเงินแก่นักท่องเที่ยวหรือลูกค้าไปก่อน ส่งผลเสียกับเอเย่นต์ซึ่งโดนกระทำ 2 ทาง คือทั้งต้องจ่ายเงินให้โฮลเซลไปแล้ว แล้วยังต้องนำเงินมาชดเชยคืนนักท่องเที่ยวรายย่อย เนื่องจากอำนาจตามกฎหมายของกรมฯ ดูแลเฉพาะในส่วนของผู้บริโภคเป็นหลักเท่านั้น

นายโชติช่วงกล่าวว่าทางสมาคมทีทีเอเอพยายามหารือกับกรมการท่องเที่ยวต่อเนื่องมาตลอด เพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้เอเย่นต์ทัวร์ต้องเผชิญแบกรับภาระทั้งสองทาง สภาพจริงมีบางบริษัทที่ไม่ได้ตั้งใจทำผิด กับที่ตั้งใจเปิดบริษัทมาเพื่อโกงจนทำให้เกิดฟองสบู่แตกก็ปิดกิจการหอบเงินลูกค้าหนีไป ปัญหานี้ค่อนข้างยากพอสมควร จึงได้เสนอทางออกเบื้องต้นที่พอจะทำได้ไว้ 3 แนวทาง ดังนี้

  • แนวทางที่ 1 กรมการท่องเที่ยว ต้องประกาศเพิ่ม “เงินค้ำประกันธุรกิจท่องเที่ยว” เพราะตอนนี้ยังตีความนิยมคำว่าโฮลเซลยังไม่จบ อีกอย่างกฎหมายยังตามไม่ทันธุรกิจที่เดินหน้าไปแล้ว
  • แนวทางที่ 2 โมดิฟลายเอเย่นต์หรือโฮลเซลเอเย่นต์ ใช้ระบบการรับรองจากสมาชิกไม่ต่ำกว่า 50 ราย ถึงความเชื่อถือของผู้ประกอบการแต่ละราย
  • แนวทางที่ 3 ทำ Streght Test เพิ่มแรงกดดันด้วยการทดสอบแบบเดียวกับธนาคารใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเปรียบเทียบข่าวที่เกิดขึ้น เพราะกรมการท่องเที่ยวรู้ความเคลื่อนไหวในตลาดอยู่แล้ว

โดยกรมการท่องเที่ยวควรจะปรับแนวคิดภาคปฏิบัติโดยไม่ต้องรอให้เกิดการกระทำความผิดขึ้นก่อน ซึ่งทางสมาคมจะเพิ่มแนวป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับนักท่องเที่ยวมากกว่า ที่จะไปตามแก้ไขภายหลัง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำงานร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางที่เป็นประโยชน์สูงสุด โดยทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องทำงานเคียงคู่กันพัฒนากับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ของไทยเติบโตตามมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศต่อไป

-เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “เสริมศักดิ์” เด้งรับนายกฯเศรษฐา บูม Pride นำไทยฮับทัวร์โลก

ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2527 ในชื่อ “สมาคมผู้แทนจำหน่ายบัตรโดยสาร” หรือ Travel Agents Association(TTAA)ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไปต่างประเทศ และธุรกิจตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม และยกระดับมาตรฐานการประกอบธุรกิจดังกล่าวของสมาชิก ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ได้เปลี่ยนชื่อสมาคมผู้แทนจำหน่ายบัตรโดยสาร(TAA) มาเป็นสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว Thai Travel Agents Association หรือ TTAA ซึ่งใช้ชื่อนี้มาถึงปัจจุบัน เพื่อให้สะท้อนความเป็นสมาคมนำเที่ยวในประเทศไทย และเพื่อให้มีความหมายครอบคลุมถึงธุรกิจนำเที่ยวมากขึ้น

นับตั้งแต่ก่อตั้ง สมาคมได้เข้าไปมีบทบาทในการส่งเสริม และสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน (BSP Agents) และธุรกิจจัดนำเที่ยวไปต่างประเทศ (Outbound) ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการก่อตั้งสมาคม อีกท้งสมาคมยังได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับสมาคมท่องเที่ยวอื่น ๆ ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโต และแข็งแกร่งจวบจนทุกวันนี้ ในส่วนของสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ก็ได้ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการทำให้มีจำนวนสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเป็น 998 รายจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ