

สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TiHTA) จับมือร่วมกับนีโอ เดินหน้าอุตสาหกรรมกัญชงไทยเพื่อสร้างโอกาสใหม่ พร้อมหารือญี่ปุ่นแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพเพื่อเจาะกลุ่มธุรกิจด้านการแพทย์และเส้นใย เร่งผนึกพันธมิตรเพิ่ม ชูจุดแข็งไทยด้านการเพาะปลูก จ่อพัฒนาพื้นที่และสายพันธุ์รองรับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรม
พร้อมจัดงาน ‘Asia International Hemp Expo 2024’ แพลตฟอร์มเชื่อมโยงนักลงทุน นักอุตสาหกรรมกัญชง สร้าง Ecosystem Business อย่างเป็นรูปธรรม
นายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทยเปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบัน อุตสาหกรรมกัญชงถูกขับเคลื่อนเพื่อใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพในกลุ่มธุรกิจ Health & Wellness มากขึ้น จากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ได้ทำการวิจัยนำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับเทรนด์สุขภาพ
ขณะเดียวกันเส้นใยจากกัญชง วัสดุธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้านความทนทาน แข็งแรง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นับเป็นวัตถุดิบทางเลือกที่ตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบทดแทนทางอุตสาหกรรมมากขึ้น ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกเล็งเห็นการสร้างห่วงโซ่อุปทานของกัญชง (Supply Chain) ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่มีศักยภาพโดดเด่นด้านการปลูก เนื่องจากมีภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมและสามารถพัฒนาพื้นที่ปลูกจนนำไปสู่การเป็นแหล่งวัตถุดิบที่ดีของโลกได้ จึงเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้เกิดเป็น Ecosystem Business ในวงกว้างระดับนานาชาติ เพื่อสร้างความยั่งยืนแก่อุตสาหกรรมกัญชงไทยในอนาคต
หารือ ‘ญี่ปุ่น’ ตลาดแห่งโอกาสอุตสาหกรรมกัญชง
สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย ได้ร่วมการประชุมกัญชงนานาชาติโตเกียวครั้งที่ 1 (1st Tokyo International Hemp Conference) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านกัญชงและกัญชาระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านกัญชง โดยเฉพาะด้านการแพทย์ เนื่องจากญี่ปุ่นมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องจนสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจสุขภาพ มีมูลค่าตลาดอยู่ที่9,939 ล้านบาท หรือ 45,000 ล้านเยนในปี 2024 และคาดการณ์จะเติบโตถึง 22,750 ล้านบาท หรือ 103,000 ล้านเยน ในปี 2027 สะท้อนการเติบโตของอุปสงค์ในระดับสูงสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ การขยายตัวในอุตสาหกรรมกัญชาและกัญชงของญี่ปุ่นมีความชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น จากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศนโยบายหลัก แก้ไขกฎหมายควบคุมการใช้แคนนาบิส(Cannabis Control Act) หรือการปลดล็อค ‘แคนนาบิสเพื่อการแพทย์’ โดยได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อวันที่6 ธันวาคม 2566
ส่วนประเทศไทย มีศักยภาพด้านการปลูกกัญชงเพื่อผลิตเส้นใยคุณภาพสูง การเรียนรู้เทคโนโลยีการแปรรูปเส้นใยกัญชงจากญี่ปุ่น จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆได้ ผนึกพันธมิตร พัฒนาสายพันธุ์-เพิ่มช่องทางการตลาดกัญชง
การจัดงาน Asia International Hemp Expo 2024
นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่นออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) กล่าวว่านีโอ พร้อมเป็นแพลตฟอร์มในการเชื่อมโยงนักลงทุน ผู้ประกอบการ และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ใช้พื้นที่การจัดงาน Asia International Hemp Expo 2024 เป็นเวทีแห่งการสร้างโอกาสประเทศไทยในมุมมองด้านแหล่งผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพทั้งผลิตภัณฑ์สารสกัดและเส้นใยบริการรับช่วงการผลิตเพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของCBD และ THC ทั้งอาหารและยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและเครื่องสำอาง รวมถึงบริการด้านการแพทย์ สุขภาพและ Wellness”
สำหรับการจัดงาน Asia International Hemp Expo 2024 มีผู้จัดแสดงงานเข้าร่วมกว่า 150 บริษัท สมาคมการค้าและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องราว 40 หน่วยงาน
โดยข้อมูลล่าสุดได้รับการยืนยันเข้าร่วมของนักอุตสาหกรรมกัญชงจาก 40 ประเทศทั่วโลกในประเภทธุรกิจที่หลากหลาย อาทิ การจัดหาวัตถุดิบ (Sourcing) การรับจ้างผลิตเพื่อการส่งออก (OEM) ธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม ธุรกิจเพื่อสุขภาพ รวมถึงนักลงทุนที่มองหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย
นอกจากนี้ได้ประกาศจัดตั้งสมาพันธ์กัญชงนานาชาติแห่งเอเชียโดยมีชาติสมาชิกกว่า 10 ประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคณะผู้แทนการธุรกิจ (Business Delegation) จากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เดินทางเข้าร่วมงาน และมีการจัด Japanese Investor Day ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “พรรคภูมิใจไทย” ลุยเดินหน้าดัน พ.ร.บ.กัญชา กัญชงต่อ