

เมสเซ่ฯ จับมือ สมาคมสิ่งทอจีนปักหมุดจัดครั้งแรกในไทย มหกรรม “ CIOSH Thailand 2024” งานแสดงนวัตกรรม และสินค้าอุตสาหกรรมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) CIOSH Thailand 2024 เริ่ม 5-7 มิ.ย.67 ที่ไบเทคบางนา ทั่วโลกเฮร่วม 6,000 ราย คาดปี’73 มูลค่าตลาดใหญ่เกิน 8,120 ล้านดอลล์

นายเกอร์นอท ริงลิ่งกรรมการผู้จัดการ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า เตรียมจัดเป็นครั้งแรกในไทยมหกรรมงาน “CIOSH Thailand 2024” หรืองานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีนานาชาติด้านอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) ระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2567 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค มุ่งเชื่อมโยงนวัตกรรมด้านความปลอดภัยระดับโลกกับความต้องการในภาคอุตสาหกรรม พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยขั้นสูง จะช่วยลดจำนวนผู้เสียผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมการก่อสร้างและสาธารณสุขตอนนี้มีปีละกว่า 1,000 คน

โดยศักภาพปัจจุบันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) ของโลก ตามรายงานพบในตลาดความต้องการใช้อุปกรณ์ PPE แนวโน้มปี 2573 มีมูลค่าถึง 8,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน‘ประเทศไทยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรม PPE ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุด 21% ด้วย 3 ปัจจัยหนุน ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมหนักขยายตัวดี 2.รัฐบาลได้ยกระดับข้อกฎหมายอย่างเข้มงวด 3.ทุกภาคส่วนหันมาตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรม
นายเกอร์นอท กล่าวตลอดการจัดงาน 3 วัน จะมีซัพพลายเออร์และผู้ซื้อทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 6,000 ราย แล้วงานของ CIOSH ทั่วโลกยอมรับเรตติ้ง A+A ติดอันดับ 1 ของโลกด้านความปลอดภัย ความมั่นคง และสุขภาพในที่ทำงาน ทางกลุ่มเมสเซ่ฯ หมุนเวียนจัดมาในประเทศชั้นมาแล้วกว่า 5 ประเทศ คือ เยอรมนี อิสตันบูล สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้
ในประเทศไทยจัดขึ้นครั้งแรก โดยเมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จับมือกับสมาคมการค้าสิ่งทอสาธารณรัฐประชาชนจีน (CTCA) ร่วมกันจัด CIOSH Thailand 2024 ขึ้นเพื่อผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงนวัตกรรมด้านความปลอดภัยระดับโลกเข้ากับความต้องการของอุตสาหกรรมในประเทศ และมีหน่วยงานกำกับดูแล ผู้เชี่ยวชาญ มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยขั้นสูง ครอบคลุมความปลอดภัยขณะปฏิบัติงานหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เตรียมพบกับผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายอุปกรณ์ PPE กว่า 280 ราย 5 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ ได้แก่ หมวกนิรภัย ป้องกันการบาดเจ็บศีรษะที่เกิดจากวัตถุร่วงหล่นลงมา อันตรายจากไฟฟ้า และการกระแทกเหนือศีรษะ
- กลุ่มที่ 2 อุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจ ตัวเลือกการป้องกันระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่หน้ากากแบบใช้แล้วทิ้งไปจนถึงเครื่องช่วยหายใจแบบฟอกอากาศบริสุทธิ์ ทุกชิ้นออกแบบมาเพื่อกรองสารปนเปื้อนเฉพาะ
- กลุ่มที่ 3 อุปกรณ์ปกป้องมือและแขน ได้แก่ ถุงมือ ปลอกแขน และถุงมือยาวที่ช่วยป้องกันการโดนบาด รอยถลอก การเจาะ การถูกไฟไหม้ และการสัมผัสสารเคมี โดยมีวัสดุและดีไซน์หลากหลายเพื่อใช้งานเฉพาะด้าน
- กลุ่มที่ 4 รองเท้านิรภัยและอุปกรณ์ปกป้องขา ได้แก่ รองเท้านิรภัยและอุปกรณ์ปกป้องขาจะช่วยป้องกันอันตรายจากการทำงานต่างๆ รวมถึงสิ่งของหล่น อันตรายจากไฟฟ้า การลื่นหรือการสะดุดล้มด้วย
- กลุ่มที่ 5 ผ้าที่มีคุณสมบัติพิเศษสำหรับชุดป้องกันและชุดทำงาน ได้แก่ วัสดุสำคัญในการผลิตชุดป้องกันและชุดทำงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีความปลอดภัยและสะดวกสบายกับพนักงาน
อาจารย์ชาญณรงค์ ไวยพจน์เลขาธิการสมาคมวิศวกรรมความปลอดภัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาอุปกรณ์ PPE ได้รับการออกแบบและพัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนผ่านการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อให้ได้อุปกรณ์ PPE ที่สวมใส่สบาย รู้สึกมั่นใจและปลอดภัยตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า แต่ ด้วยข้อจำกัดด้านการเข้าถึงอุปกรณ์ดังกล่าวจึงยังพบบุคลากรเสียชีวิตขณะปฏิบัติงานจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มงานก่อสร้างและสาธารณสุข
ในงาน CIOSH Thailand 2024 สมาคมวิศวกรรมความปลอดภัยจึงได้เปิด “คลินิกให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัย : Safety ClinicW บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เปิดเป็นโซลูชันเสริมสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตภาคอุตสาหกรรม ได้นำไปใช้รับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัย รวมทั้งจะสาธิตการใช้อุปกรณ์ PPE อย่างถูกต้อง เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ
นายสุรเชษฐ์ สีงามอุปนายกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร (BSA) กล่าวว่า มาตรฐานและความปลอดภัยอาคารถือเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ด้วยองค์ประกอบที่ครอบคลุมเรื่องงานออกแบบโครงสร้างอาคาร การเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ แผนการดำเนินงานก่อสร้าง การบำรุงรักษา และอื่น ๆ ทำให้ผู้ใช้อาคารมีความปลอดภัย ป้องกันการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินในอนาคต ต้องมีมาตรฐานสำคัญขั้นพื้นฐานที่อาคารในไทยตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ได้แก่ มาตรฐานความมั่นคงและแข็งแรงของอาคาร ระบบบริการภายในอาคาร เช่น ระบบต่าง ๆ อย่าง ป้องกันเพลิงไหม้ บำบัดน้ำเสีย ลิฟต์ บริหารการจัดการความปลอดภัยในอาคาร
สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร สมาคมวิชาชีพของวิศวกรและสถาปนิก ทำงานร่วมกันมากว่า 2 ทศวรรษ ด้วยการเดินหน้าถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพ “ผู้ตรวจสอบอาคารในประเทศไทย” กระตุ้นให้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารในประเทศไทย
นายอกนิษฐ์ สมิตะพินทุนายกสมาคมบริหารงานจัดซื้อและซัพพลายเชนแห่งประเทศไทย (PSCMT) กล่าวว่า นักจัดซื้อมีบทบาททั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะต้องซื้ออุปกรณ์เหล่านี้นำไปใช้งานจริง ซึ่งจะสามารถกำหนดเงื่อนไขความปลอดภัยให้ผู้รับเหมาได้ปฏิบัติ โน้มน้าวให้ซัพพลายเออร์ขององค์กรหันมาปฏิบัติตามหลักความปลอดภัย เลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานตามกฎหมายกำหนด ในการดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยพนักงานจะช่วยส่งเสริมเป้าหมายด้าน ESG (Environmental, Social and Governance) ขององค์กรด้วย
ดังนั้นนอกจากเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการสนับสนุนให้สวมใส่และใช้งานจริง อาจจะสร้างกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับซัพพลายเออร์ เพิ่มมูลค่าร่วมกันระหว่างนักจัดซื้อกับซัพพลายเออร์ หลายองค์กรยังเห็นว่าอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยเหล่านี้เป็นต้นทุน นักจัดซื้อจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจถึงต้นทุนรวมความจริงแล้วต้นทุนซ่อนอยู่นั้นสูงมาก ทำให้การลงทุนอุปกรณ์เพื่อบรรเทาอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นอาจความเสียหายสูงมากกว่า การเลือกใส่ใจดูแลป้องกันปัญหาไว้ก่อนตั้งแต่ความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางก็เป็นได้
-เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัฐจัดเต็ม! “งานมหกรรมเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ยาว 21 วัน