อะลอตเท็ค โตก้าวกระโดดเป้า 2,500 ล้าน

IOT CEO
โชติ และ พลสิทธิ์

A Lot Tech (อะลอตเท็ค) ภายใต้ บริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT เผยกลยุทธ์ขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจ Tech & Innovations เพื่อสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว อะลอตเท็ค เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า ขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์

พร้อมต่อยอด Social Commerce ที่มีผลตอบรับดีเกินคาด เพื่อเข้าถึงลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้อย่างทั่วถึงทุกเซ็กเมนต์ ในทุก Touchpoint พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังพัฒนาระบบ Dropship มอบความสะดวกสบายให้กับพาร์ทเนอร์

รวมถึงปรับใช้ CRM ต่อยอด Data เพื่อนำเสนอสินค้าตอบโจทย์ลูกค้า ผ่านช่องทาง Telesales เพื่อขยายโอกาสการจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมสร้างแบรนด์เสริมสร้างภาพลักษณ์สู่แพลตฟอร์มอุปกรณ์ IT และ IoT อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค

ทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันการเติบโตของ GIFT สู่เป้าหมายรายได้ 2,500 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2567

โชติ เชษฐโชติศักดิ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตั้งแต่ก่อนเข้าลงทุน เราได้เล็งเห็นถึงความแข็งแกร่งของ บริษัท อะลอตเท็ค จำกัด ในการเป็นบริษัทที่สามารถ Scale Up ได้อย่างรวดเร็ว

พร้อมทั้งยังเป็นธุรกิจไลฟ์สไตล์ที่อยู่ในเทรนด์ และมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ตรงกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ GIFT หลังจากที่อะลอตเท็ค เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเราก็ยิ่งเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

สะท้อนจากตัวเลขรายได้รวมกว่า 1,700 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2566 โดยมีรายได้มาจากการจำหน่าย สินค้า IT โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ IoT และซิมการ์ดรายปี ที่เป็นโซลูชันให้กับคนยุคใหม่ นอกจากนี้อะลอตเท็ค ยังมีจุดเด่นที่การใช้ Social Commerce

เป็นเครื่องมือสำคัญในการจำหน่ายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทาง TikTok ที่สามารถสร้างรายได้กว่า 60 ล้านบาทต่อเดือน แสดงถึงการปรับตัวได้อย่างโดดเด่นและหาช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ อยู่เสมอ”

CEO IOT
GIFT-Tech-Innovations

พลสิทธิ์ กอบกิจสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อะลอตเท็ค จำกัด กล่าวเสริมว่า “ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้า IT และ IoT ชั้นนำในไทย เราต้องการสร้างการเติบโตทางธุรกิจด้วยการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ผ่าน 6 กลยุทธ์ ประกอบด้วย การเพิ่มความหลากหลายของ Product Portfolio โดยเพิ่มประเภทของสินค้า IT และอุปกรณ์ IoT แบ่งออกเป็น กลุ่มสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต กลุ่มแก็ดเจ็ตเพื่อสุขภาพ กลุ่มแก็ดเจ็ตสำหรับสัตว์เลี้ยง และกลุ่มสินค้า IoT

โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ของเราจะมาจากซิมการ์ดรายปี 60% และสินค้า IT อื่นๆ 40% ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อต่อยอดจุดเด่นของอะลอตเท็ค ในด้านความแข็งแกร่งของช่องทางการจำหน่าย ด้านออฟไลน์

ปัจจุบันเรามีเครือข่ายร้านค้าพาร์ทเนอร์ที่รับสินค้าจากเราไปจำหน่ายมากกว่า 1,000 ร้านทั่วประเทศ สำหรับด้านออนไลน์ เรามีหน้าร้านทั้งหมด 5 แบรนด์ย่อย กระจายในหลากหลายแพลตฟอร์มทั้งอีคอมเมิร์ซ และโซเชียลคอมเมิร์ซ ในอนาคต เราจะยังคงขยายช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่องให้เข้าถึงลูกค้าคนรุ่นใหม่ทุกเซ็กเมนต์”

นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ ที่จะช่วยต่อยอดการเติบโตของบริษัท อาทิ การขยายบริการ Dropship ดูแลสต็อกและจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า B2B โดยพาร์ทเนอร์ไม่ต้องสต็อกสินค้า เพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับพาร์ทเนอร์ และในด้านระบบหลังบ้านของA Lot Tech

ยังมีการใช้ CRM ต่อยอด Data เพื่อนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าเดิมและที่ติดตามบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ประมาณ 3 ล้านราย เพิ่มโอกาสการจำหน่ายสินค้าและนำเสนอบริการใหม่ๆ เพื่อคงความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ ผ่านช่องทาง Telesales ซึ่งเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าเดิม

“กลยุทธ์ทั้งหมดจะดำเนินการควบคู่กับการเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ (Branding) เพื่อสร้างการจดจำให้ลูกค้านึกถึงอะลอตเท็ค เมื่อต้องการสินค้า IT หรือ IoT หรือเป็น ‘Top-of-mind Brand’ ของลูกค้า สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ GIFT ที่มีความตั้งใจในการบริหารและพัฒนาแบรนด์ให้เป็นแบรนด์ที่มีคุณค่าและแข็งแกร่ง (Brand Equity)

มุ่งสู่จุดสูงสุด คือ ‘Brand Loyalty’ โดยในอนาคต บริษัทตั้งเป้าเดินหน้าสู่การเป็น ‘แพลตฟอร์มออนไลน์รีเทลด้านสินค้า IT และ IoT ที่แข็งแกร่งที่สุด’ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้กลุ่มธุรกิจ Tech & Innovations ของ GIFT มีการเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืน

อย่างไรก็ดี เรามั่นใจว่าจากกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ซึ่งจะขับเคลื่อนรายได้ GIFT ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดสูงถึง 2,500 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้” โชติ กล่าวสรุป

A Lot Tech

ข่าวที่เกี่ยวข้อง โลกของ IoT Signals