แรงขายทำกำไรหุ้นราคาดี ทำดาวโจนส์ติดลบกว่า 220 จุด

  • มีแรงขายทำกำไรออกมา หลังไตรมาสแรกที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐโตพุ่ง
  • นักลงทุนกังวลดอกเบี้ยสูงนานหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดขึ้น
  • ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 17 เดือน

เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 39,583.75 จุด ลดลง 223.62 จุด หรือ 0.56%  ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 5,241.78 จุด ลดลง 12.57 จุด หรือ 0.24% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 16,383.14 จุด เพ่มขึ้น 3.68 จุดหรือ 0.02% 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นทะลุ 4.3% ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลการคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงนานกว่าที่คิด โดยมีสาเหตุมาจากการให้สัมภาษร์ของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแสดงความเห็น หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ว่า แม้ว่าดัชนี PCE สอดคล้องกับที่เฟดคาดการณ์ไว้ แต่เฟดก็จะใช้ความระมัดระวังก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

“เราจำเป็นต้องเห็นความคืบหน้ามากขึ้นอีกเกี่ยวกับเงินเฟ้อก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการตัดสินใจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องนี้” นายพาวเวลกล่าว

อย่างไรก็ตาม ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. และหากตลาดแรงงานชะลอตัวลง เฟดก็อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 5 ครั้งในปีนี้

“โดยหากกิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนินไปตามที่เฟดคาดการณ์ เฟดก็อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้แต่ถ้าตลาดแรงงานยังคงชะลอตัวต่อไป เราก็คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 5 ครั้งในปีนี้” รายงานระบุ

นักลงทุนพากันขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นพุ่งแรงในเดือนมี.ค. และไตรมาส 1/2567 ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ติดลบ โดยที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทะยานขึ้นในไตรมาส 1 มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564 ส่วนดัชนี S&P 500 ทำสถิติทะยานขึ้นในไตรมาส 1 มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 9.1% ในไตรมาส 1/2567 อย่างไรก็ตาม แรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีทำให้ดัชนีแนสแด็ก

ด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 47.8 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.1 โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตและการจ้างงาน ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตสหรัฐมีการขยายตัว โดยเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 17 เดือน

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ชะลอตัวจากระดับ 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%