ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024

ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Risk Normalization” เพื่อส่งเสริม แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย มั่นคง อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Risk Normalization” เพื่อส่งเสริม แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย มั่นคง อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม

ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน

งานครั้งนี้ ปตท.สผ. จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Risk Normalization” เพื่อส่งเสริม แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย มั่นคง อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ในการปฏิบัติงานแก่บริษัทคู่ค้าทางธุรกิจและพนักงานปตท.สผ. และ ได้จัดพิธีมอบรางวัล CEO SSHE Excellence Awards ให้แก่บริษัทคู่ค้าทางธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยยอดเยี่ยม เพื่อ บรรลุเป้าหมายการเป็นองค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุ (Zero-Incident Organization)

มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล (ที่ 6 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. เป็นประธานเปิดงานประชุมด้านความปลอดภัย มั่นคง อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2567 (2024 PTTEP SSHE Forum) ร่วมกับนายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยมีนายปวิช เกศววงศ์ (ที่ 6 จากซ้าย) รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ (ที่ 4 จากขวา) ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของปตท.สผ. เข้าร่วมในพิธี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :ปตท.สผ. ตั้งงบแผนดำเนินงาน 5 ปี 32,575 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. ดำเนินธุรกิจสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทยและความต้องการใช้พลังงานของประเทศที่เข้าไปลงทุน

ปตท.สผ. ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2528 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2536 มีทุนจดทะเบียน 3,969,985,400 บาท ด้วยพันธกิจในการเป็นบริษัทพลังงานของประเทศไทยพร้อมกับการสร้างคุณค่าร่วมให้กับพันธมิตรปตท.สผ. ได้ขยายการลงทุนในโครงการสำรวจ พัฒนา และ ผลิตปิโตรเลียมไปกว่า 50 โครงการทั้งใน และต่างประเทศ เช่น ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

ปัจจุบันปตท.สผ. ได้ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่ นอกเหนือจากการสำรวจ และผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยมุ่งเน้นพลังงานรูปแบบใหม่ของอนาคต นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อเป้าหมายการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำและการเติบโตในอนาคต

ในการดำเนินธุรกิจปตท.สผ. ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อน และสนับสนุนเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย โดย ได้กำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 (Net Zero Greenhouse Gas Emissions by 2050) ด้วยแนวคิดEP Net Zero 2050 และ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรวมทั้ง มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และจริยธรรมธุรกิจเพื่อ สร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

มีการดำเนินธุรกิจสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม มากกว่า 50 โครงการ ในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง รวมทั้ง พื้นที่ที่มีศักยภาพด้านปิโตรเลียมและโอกาสในการลงทุน

ในประเทศไทย ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ (Operator) ในแหล่งปิโตรเลียมสำคัญ ๆ ของประเทศ เช่น โครงการจี 1/61 โครงการจี 2/61 โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 และยังมีโครงการที่เป็นการร่วมทุนอีกหลายโครงการทั้งบนบกและในอ่าวไทย

สำหรับโครงการในต่างประเทศปตท.สผ. มีการลงทุนและเป็นผู้ดำเนินการในโครงการต่าง ๆ ในหลายประเทศ โดยโครงการหลัก ๆ ที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการ เช่น โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ซึ่งเป็นโครงการผลิตน้ำมันดิบที่สำคัญของปตท.สผ. ในทวีปแอฟริกา และโครงการมาเลเซีย แปลง เอช ซึ่งเป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติที่สำคัญในประเทศมาเลเซีย สำหรับโครงการที่อยู่ในระยะสำรวจ

เช่น โครงการมาเลเซีย เอสเค410บี ซึ่งได้สำรวจพบแหล่งลัง เลอบาห์ ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ปตท.สผ. เคยสำรวจพบ ส่วนโครงการร่วมลงทุนอื่น ๆ เช่น โครงการโอมาน แปลง 61 เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติบนบกที่มีปริมาณสำรองขนาดใหญ่

และมีความสำคัญต่อตลาดก๊าซฯ ในประเทศโอมาน โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 ซึ่งมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ และโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน ซึ่งเป็นโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied National Gas) ขนาดใหญ่ในทวีปแอฟริกา

นอกจากนี้ปตท.สผ. ยังมีการร่วมลงทุนในธุรกิจปิโตรเลียมขั้นกลาง (Midstream Business) เช่น โอมาน แอลเอ็นจี (Oman LNG หรือ OLNG) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวแห่งเดียวในประเทศโอมาน

และ โรงแยกก๊าซธรรมชาติแอดนอค (ADNOC Gas Processing หรือ AGP) ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแยกก๊าซธรรมชาติบนบกขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อส่งเสริมธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมด้วย