เตือน! เล่นสงกรานต์ อย่าละเมิดสิทธิคนอื่น มีโทษจำคุก 1 เดือนปรับ 1 หมื่น

เตือน! เล่นสงกรานต์ อย่าละเมิดสิทธิคนอื่น สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ทรัพย์สินเสียหาย เสี่ยงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น ส่วนพฤติกรรมลูบคลำ ประเเป้งลักษณะล่วงเกิน อาจจะเข้าข่ายอนาจารผิดอาญา

  • อย่าละเมิดสิทธิคนอื่น
  • สร้างความเดือดร้อนรำคาญ
  • เสี่ยงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น

วันที่ 13 เมษายน 2567 นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวถึงการหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ว่า เป็นช่วงที่มีเกิดอันตรายและเพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมากมาย โดยจากข้อมูลในเชิงสถิติเห็นว่าตั้งแต่ปี 2565 อุบัติเหตุสูงสูงขึ้นทุกปี

ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่อยากจะขออนุญาตตักเตือนพี่น้องประชาชน สำหรับคนที่ต้องออกเดินทางไม่ว่าจะไปที่ที่ไหนก็ตามไม่ว่าจะเดินไปพักผ่อนการท่องเที่ยว หรือไปเยี่ยมญาติสนิทมิตรสหาย หรือว่าไปรดน้ำดำหัวบิดามารดาหรือผู้ที่มีอุปการะคุณ

ส่วนในกรณีที่เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ก่อนจะขับขี่รถ เราต้องมีสติ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่ไปเกิดเหตุละเมิดคนอื่น คนที่ดื่มสุราแล้วต้องไม่ขับ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างสูง ตามข้อมูลในเชิงสถิติดื่มแล้วขับอุบัติเหตุจะเกิดเป็นอันดับที่ 2 รองจากขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด

ทั้งนี้จึงอยากฝากถึงประชาชน 2 เรื่องในเรื่องดื่มเเล้วขับ เเละขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนด เพราะจะทำให้เกิดการสูญเสียได้ เเละถ้าเราเป็นฝ่ายกระทำผิด อาจถูกดำเนินคดี ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง ส่วนคนที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ก็ควรสวมหมวกนิรภัย เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุสามารถป้องกันความร้ายแรงได้ ซึ่งมีงานวิจัยออกมาว่าคนที่เกิดอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุจนถึงแก่ความตาย ส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัย

นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวต่อว่าเรื่องการเล่นน้ำสงกรานต์ อยากจะฝากเตือนเรื่องการละเมิดสิทธิคนอื่น การเล่นน้ำต้องดู เพราะบางคนไม่ประสงค์จะเล่นน้ำ เขาแต่งตัวเพื่อไปทำงาน ถ้าเขาบอกว่าไม่ประสงค์จะให้สาดน้ำสงกรานต์ หรือให้ประแป้ง

ทั้งนี้หากเรายังไปเล่นต่อจนเขาเสียหาย เป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับเขา ถ้าทรัพย์สินของเสียหาย อาจต้องรับผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ เขาสามารถดำเนินคดีทางอาญาแก่ผู้กระทำได้ อย่างน้อยก็ข้อหาสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งมีโทษขั้นต่ำ คือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ คนที่ไปเล่นน้ำ เท่าที่เห็นมีประเด็นเป็นปัญหาก็คือ การไปลูบคลำ หรือไปประเเป้งที่เป็นลักษณะล่วงเกิน ไม่ว่าผู้กระทำจะเป็นหญิงหรือชาย ซึ่งกรณีเเบบนี้อาจจะเข้าข่ายข้อหากระทำการอนาจารที่เป็นความผิดทางอาญา มีโทษตามกฏหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง https://thejournalistclub.com/police-news-songkran/257148/

อ้างอิง https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4523368