

“แพทองธาร ชินวัตร” – อุ๊งอิ๊ง นำทีมจัดประชุมประเดิมจัดยิ่งใหญ่ครั้งแรกงาน “THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2024 2024” ปลุก ซอฟต์พาวเวอร์ ไทย กับอินเตอร์ โชว์พลังวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ซอฟต์พาวเวอร์ ไทยกระหึ่มทั่วโลก 11 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ตบเท้าเต็มที่ 3 เป้าหมายใน 4 โซน 28-30 มิ.ย.67 ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์

นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซอฟต์พาวเวอร์ แห่งชาติ (THACCA : ทักก้า) เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้จัดงานประชุมนานาชาติ THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2024 ด้านซอฟต์พาวเวอร์ขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย โดยได้นำวัฒนธรรมกับแรงบันดาลใจจาก 11 สาขาอุตสาหกรรม มาสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ผ่านทักษะทางวัฒนธรรมและสังคมอันเป็นเอกลักษณ์ไทย เตรียมนำเข้าสู่เวทีระดับสากล โดยจะจัดงานข้างต้นอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริเวณชั้น G ฮอลล์ 1 และ 2
รูปแบบการจัดและประชาสัมพันธ์งานประชุมนานาชาติครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่
- ประการที่ 1 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านซอฟต์พาวเวอร์ ความเข้าใจต่อทิศทางการดำเนินการ และบทบาทในเวทีระดับสากล
- ประการที่ 2 เพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผู้ประกอบการด้านซอฟต์พาวเวอร์ รวมถึงส่งเสริมศักยภาพทางการแข่งขันผ่านการเชื่อมโยงความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา
- ประการที่ 3 เพื่อสนับสนุนกลไกในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่มีบทบาทในการพัฒนา และส่งเสริมด้านซอฟต์พาวเวอร์ระหว่างประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตลอดจนพันธมิตรนานาชาติรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสากลควบคู่กันไปด้วย
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า นโยบาย ซอฟต์พาวเวอร์ จะเป็นหนึ่งอาวุธสําคัญของประเทศที่ทาง THACCA จะผลักดันให้ไทยยกระดับจากประเทศรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศ รายได้สูง ด้วยเสน่ห์ต่าง ๆ ซึ่งจะสามารถเพิ่มเงินรายได้เข้าประเทศทั้งจาก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การจัดเทศกาล ต่อเนื่องไปถึงอุตสาหกรรมอาหาร อีกทั้งยังจะยกระดับฝีมือแรงงานทั้งระบบได้ด้วย ตามที่รัฐบาลและ THACCA มองการขับเคลื่อนภาพใหญไม่ได้แยกกันทำ แล้วก็จะสร้างให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดกับประเทศอย่างแท้จริง

ส่วนแนวคิดการจัดงาน THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2024 สาดวัฒนธรรม ขับเคลื่อนสังคมไทย นำร่องเป็นสื่อกลาง โดยได้รวบรวมองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมสร้างสรรค์ทั้งในประเทศและทั่วโลก มานำเสนอความยิ่งใหญ่ในพื้นที่กว่า 11,230 ตารางเมตร มีทั้งหมด 4 โซน ได้แก่
- โซนที่ 1 SPLASH Visionary Zone จัดเวทีแสดงศักยภาพด้านความสามารถ การแลกเปลี่ยนทัศนคติ ประสบการณ์ กรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ ความคิดเห็น เพื่อนำองค์ความรู้ไปขยายต่อยอด
โดยจะมีทั้งหมด 4 เวที ได้แก่ Vision Stage, Pathway Stage, Performance Stage และ Splash Pod
- โซนที่ 2 นิทรรศการจากทักก้า หรือ THACCA Pavilion จะนำเสนอทุกเป้าหมาย และแรงผลักดันที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยด้วย ซอฟท์ พาวเวอร์ ซึ่งจะทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
- โซนที่ 3 นิทรรศการจาก 11 กลุ่มอุตสาหกรรม จะนำเสนอศักยภาพด้าน ซอฟท์ พาวเวอร์ ของประเทศไทย และศักยภาพวัฒนธรรมสร้างสรรค์ของคนไทย ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ต้องการให้โลกรับรู้
ประกอบด้วย อุตสาหกรรมเฟสติวัล ท่องเที่ยว อาหาร ออกแบบ ศิลปะ ภาพยนตร์ เพลง หนังสือ เกม แฟชั่น และกีฬา
- โซนที่ 4 International Pavilion ประกอบด้วย โอกาส และความสำเร็จของแต่ละประเทศ จากนโยบายเกี่ยวกับวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิตาลี และอื่น ๆ
ในงานจะมี 1 ในไฮไลท์ของตัวแทนจากอุตสาหกรรมเฟสติวัลหรือเทศกา โดยผู้จัดงาน S20 จากเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง จะมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองนำพาประเพณีสงกรานต์ไทยก้าวสู่ต่างประเทศ อีกทั้ง Hackathon กิจกรรมพิเศษมอบให้นักศึกษามหาวิทยาลัย ด้วยกลยุทธ์ส่งเสริมการระดมความคิดสร้างสรรค์ Hack Idea ไม่มีที่สิ้นสุด รับโจทย์ปัญหาสุดท้าทายจากอุตสาหกรรมภายในงาน รวมถึงเตรียมต้อนรับผู้เข้าร่วมงานจากหลากหลายฝ่ายทั่วไทยและนานาชาติ เช่น หน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานเอกชน ผู้ประกอบการ องค์กรที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนในการขับเคลื่อน 11 อุตสาหกรรม เปิดโอกาสเชื่อมสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างองค์กร
สำหรับกิจกรรมภายในงานได้เอื้อต่อนักเรียน นักศึกษา บุคคลทั่วไป สามารถใช้เป็นแหล่งรวมแรงบันดาลใจและความฝันเพื่อคนไทย ส่งเสริม และเพิ่มมูลค่าอัตลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านวิถีชีวิตผู้คน ต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ ทำให้เกิดการเติบโตในระดับสากลอย่างน่าภาคภูมิเป็นผลงานของคนไทยทั้งประเทศที่จะอวดคนทั่วโลกในปัจจุบันและอนาคตได้
-เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัฐเดินหน้าซอฟต์พาวเวอร์ ‘ภาพยนตร์-ละครไทย’ สู่สายตานานาชาติ