บุณยสิทธิ์ เจ้าสัวสหพัฒน์ ค้านขึ้นค่าแรง 400 บาท ไทยมีแต่เสียกับเสีย

เจ้าสัวบุณยสิทธิ์ เตือนรัฐอย่าใช้แค่เศรษฐกิจหาเสียง
เจ้าสัวบุณยสิทธิ์ เตือนรัฐอย่าใช้แค่เศรษฐกิจหาเสียง


เจ้าสัวเครือสหพัฒน์ บุณยสิทธิ์ เตือนผู้ประกอบการไทย ในยุคนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง อย่ายึดติดกับความคิดเดิมๆ เพราะโลกเปลี่ยนไปมาก ไปสู่ยุคบิ๊กดาต้า ดิจิทัล ทรานสฟอร์ม เช่นในเครือสหพัฒน์ปีนี้จะมีการเซ็นเอ็มโอยูในธุรกิจใหม่ถึง 16 ฉบับ มากที่สุดในประวัติการณ์ ล้วนแต่เป็นธุรกิจใหม่ๆ นำไปสู่อนาคต ขณะเดียวกัน เตือนรัฐอย่ามองแค่เศรษฐกิจหาเสียง และมองไประยะยาว 

ไม่เห็นด้วยกับนโยบายค่าแรง 400 บาท เพราะไปช่วยแรงงานต่างชาติ และเกิดคบื่นต่สงชาติไหลเข้ามา เพราะคนไทยปัจจุบันรายได้เกินค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ที่สุดเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจไทยเพระาผู้ผลิตจะต้องขึ้นราคาสินค้า คนไทยมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่แรงงานต่างชาติกลับได้เงินเพิ่มขึ้นแทน

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจประเทศไทยมีอัตราเติบโตระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่มองว่ายัไม่ถึงขั้นวิฤกต เหมือนต้มยำกุ้ง ขณะที่มาาตรการแก้ไขของรัฐกลายเป็นเศรษฐกิจหาเสียง ที่ไม่ได้มองการแก้ไขปัญหาระยะยาว ไม่กล้าทำโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ กลัวหนี้สูง  รัฐบาจะต้องใช้เครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ถูกต้อง

ขณะเดียวกันตนเก็นห่วงเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้กู้ที่มีอายุมากแต่ถ้ากลุ่มผู้กู้ มีอายุน้อยก็จะมีโอกาสในการจ่ายหนี้สูง 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปเที่เศรษฐกิจโลก ยักษ์ใหญ่ทะเลาะกัน จีนมีปัญหากับสหรัฐฯ ซึ่งทำให้กลุ่มทุนต่างๆ และต่างชาติที่เข้าไปลงทุนตั้งฐานการผลิตในจีนได้เคลื่อนย้ายฐานการผลิตออกจากจีย เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบกับสงครามทางการค้า ซึ่งมองว่าเป็นโอกาที่ไทยจะดึงการลงทุนเข้ามา  เพราะไม่มีปัญหากับการส่งผลิตสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ

ขณะที่  สภาพเศรษฐกิจไทยในยุคนี้ผู้ประกอบการจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ในยุคดิจิตอล บิ๊กดาต้าและดิจิทัล ทรานสฟอร์ม  หากนำมาผสมผสาน กันจะสามารถทำได้ในธุรกิจหลายอย่างเช่นเดียวกับเครือสหพัฒน์ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจไปมาก ธุรกิจไหนที่เป็นยุคก่อนเช่นพวกโรงงานเสื้อผ้า พวกนี้จะลดขนาดลง แต่ไปขยายในกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น 

โดยเฉพาะในปีนี้ ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 26-30 มิ.ย.นี้ ยกทัพสินค้ามาให้ช็อปกันทั้งกลุ่มแล้ว ยังจะมีการเซ็นเอ็มโอยูและบันทึกความร่วมมือกับพันธมิตร 16 ฉบับ มากสุดเป็นประวัติการณ์  โดยเป็นกลุ่มธุรกิจจากจีน 3 บริษัท ญี่ปุ่น 4 บริษัท เกาหลี 1 บริษัท ใน 5 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ไบโอเทค บริการ ความรู้ แพลตฟอร์ม และธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งกลุ่มธุรกิจเหล่านี้แสดงถึงทิศทางธุรกิจของเครือสหพัฒน์ที่จะก้าวไปในอนาคต

“ทางเครือสหพัฒน์กล้าจะเปลี่ยนแปลงและมองเป็นโอกาส อะไรดีเราก็ทำไม่ได้ยึดติดอะไร เช่นการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB  มูลค่า 5 หมื่นล้านบาทกับกลุ่ม Zhen Ding Tech ที่ผลิตอุปกรณ์ไอโฟน ซึ่งคาดว่าจะใช้พนักงานถึง 7,000 คน เพื่อทำการผลิตในโรงงานในประเทศไทย  เพื่อปูรากฐานสู่อนาคต ให้กับบริษัทในเครือสหพัฒน์เข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่” 

สำหรับนโยบายค่าแรง 400 บาท ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่เกินค่าแรงขั้นต่ำ และไม่ทำงานกินค่าแรงขั้นต่ำกันแล้ว โดยต่างชาติเข้ามาทำงานหมด ดังนั้นคนที่ได้ประโยชน์จะเป็นแรงงานต่างชาติ อีกทั้งจะเกิดแรงงานต่างชาติไหลเข้าประเทศอีกมากเพื่อมาหารายได้จริงนี้กัน

“ทางเครือสหพัฒน์ไม่ได้รับผลกระทบกับการขึ้นค่าแรงนี้ แต่การขึ้นค่าแรงจะกระทบไปบางอุตสาหกรรมที่พึ่งพาแรงงานจำนวนมาก ซึ่งที่สุดจะไปขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นและกระทบคนไทย แต่คนที่ได้ประโยชน์คือแรงงานต่างชาติ”

ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ และ พิภพ โชควัฒนา
ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ และ พิภพ โชควัฒนา

เตรียมจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์

ทางด้านนายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่า สหกรุ๊ปแฟร์ปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 27-30 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00–21.00 น. ที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา โดยจะนำสินค้าแบรนด์ดังในเครือสหพัฒน์มาจำหน่ายในราคาพิเศษ รวมกว่า 100 บริษัท 1,000 รายการ อาทิ มาม่า ฟาร์มเฮ้าส์ วาโก้    กีลาโรช ลาคอสต์ บีเอสซี เวลแคร์ เปา ซื่อสัตย์ ซิสเท็มมา โชกุบุสซึ โคโดโมะ และจะจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุด สินค้าใหม่จากแบรนด์ต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมพิเศษ แฟชั่นโชว์ การประกวด และการสัมมนา มากมาย

นอกจากนี้ ยังมี 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ของเครือสหพัฒน์นำสินค้ามาจัดแสดงและจำหน่ายด้วย ได้แก่ สมาคมการค้าวิสาหกิจจีน ซึ่งจะนำกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ มาร่วมงาน อาทิ รถยนต์อีวี เช่น BYD, AION, ChangAn, MG, GWM สินค้าเทคโนโลยี เช่น Huawei, HIP Global, Hikvision เป็นต้น รวมทั้ง Quark Biosciences ผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ชั้นนำจากไต้หวัน และ Zhen Ding Technology Holding Limited ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นวงจรพิมพ์อันดับ 1 ของโลก

สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 28 จะมาพร้อมรูปแบบการจัดงานโฉมใหม่ในคอนเซปต์ Fair & Fest ซึ่งจะเนรมิตงานให้เป็นทั้งแฟร์และเฟสติวัลในงานเดียว โดยจะมีกิจกรรมความบันเทิงกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ทั้งบนเวทีการแสดง พื้นที่ส่วนกลาง บูธแสดงสินค้า เพื่อสร้างสีสัน ความแปลกใหม่ และทำให้การเลือกซื้อสินค้าสนุกสนานและเพลิดเพลินมากกว่าเดิม อาทิ การประกวดเต้นโคฟเวอร์และฮิปฮอปสุดมันส์ คอนเสิร์ตจากยูทูบเบอร์ในโลกเสมือน (VTuber Concert) ที่กำลังมาแรง แฟชั่นโชว์ WACOAL BRACATION ที่นำเสนอคอลเลกชันใหม่ ในปี 2024 กิจกรรม ODEN-YA รวมพลคนสะสมการ์ดพลัง แฟชั่นโชว์สัตว์เลี้ยง Meet & Greet กับเซเลบสี่ขา ที่จะมาร่วมสร้างสีสัน การแสดงดนตรีและคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย พร้อมด้วยงานแสดงศิลปะป๊อปอาร์ต อาร์ตทอยแกลลอรีที่มีคาแรกเตอร์ชื่อดัง ‘HUUYAOW’ มาโชว์ และยังมีมุมตกแต่งสวย ๆ อีกมากมายให้ผู้ร่วมงานถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

“นอกจากกิจกรรมที่จะสร้างสีสันให้งานสหกรุ๊ปแฟร์มีความสดใหม่แล้ว ปีนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เซ็นเอ็มโอยูและบันทึกความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวม 16 ฉบับ ใน 5 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ไบโอเทค บริการ ความรู้ แพลตฟอร์ม และธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งกลุ่มธุรกิจเหล่านี้แสดงถึงทิศทางธุรกิจของเครือสหพัฒน์ที่จะก้าวไปในอนาคต” นายธรรมรัตน์ กล่าว 

ตัวอย่างของการเซ็นเอ็มโอยูและบันทึกความร่วมมือ เช่น ความร่วมมือกับ QUARKBIO ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI Technology Machine จากไต้หวัน เพื่อบุกธุรกิจด้านเทคโนโลยีชีวภาพและการดูแลสุขภาพ ความร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อสนับสนุนโครงการศูนย์พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร

เอ็มโอยูกับ Tokyu Corporation เพื่อขยายความร่วมมือในธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ความร่วมมือกับควอนตัม เอสดีจีเอ็ม และเอ็มทีเอส โกลด์ เพื่อให้สิทธิพิเศษกับลูกค้า MTS ในการแลกเป็นทองดิจิทัลในระบบ QDM

ความร่วมมือกับ DHL Express เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งด่วนทางอากาศผ่านบริการ GoGreen Plus และ ความร่วมมือกับ SC Grand  ในการพัฒนาสินค้าแฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

และยังมีความร่วมมือเพื่อพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Print Circuit Board : PCB) ระหว่าง เพ๊ง เชิน เทคโนโลยี (ประเทศไทย)และสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย

“บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” ถอดรหัสอนาคตเครือสหพัฒน์ ก่อนวางมืออายุ 88 ปี 8 เดือน 8 วัน

เครือสหพัฒน์ จับมือไต้หวัน รุกธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ