จนถึงวันนี้ คนไทยน่าจะยังมูฟออนจากเรื่อง “ข้าว 10 ปี” ไม่ได้!!
เนื่องจากยังคลางแคลงใจผลการตรวจสอบข้าวสารหอมมะลิล็อตสุดท้ายของรัฐบาล ที่เก็บในโกดังของเอกชน 2 แห่งในจ.สุรินทร์ คือ กิตติชัย หลัง 2 และ พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 ในความรับผิดชอบขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบ
หลังจากเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา “นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวผลตรวจสอบ “ข้าวสารที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์” ร่วมกับ “นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม” อธิบดีกรมการค้าภายใน และ “นายกฤษณรักษ์ ใจดี” รักษาการ ผู้อำนวยการ อคส.
ผลตรวจสอบยันข้าว 10 ปีปลอดภัย
สำหรับสาระสำคัญของการแถลงข่าวดังกล่าว สรุปได้ว่า ผลการตรวจสอบทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านกายภาพและสิ่งแปลกปลอม ด้านความปลอดภัย และด้านคุณค่าทางโภชนาการ ของตัวอย่าง “ข้าวสารที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์” 2 ตัวอย่างนั้น
แม้จะพบเมล็ดข้าวมีสีเหลือง มีกลิ่นอับ พบมอดมีชีวิตและชิ้นส่วนแมลง ซึ่งถือว่า ไม่ผ่านมาตรฐานสินค้าเกษตร ที่ระบุว่า ต้องปราศจากแมลงและไรที่มีชีวิต
แต่ในด้านความปลอดภัย ไม่พบเชื้อราอะฟลาทอกซิน ไม่พบสารที่ใช้รมยาฆ่าแมลง ไม่พบสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช 250 ชนิด แต่พบโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู ปนเปื้อนในปริมาณไม่เกินมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด
ที่สำคัญ ด้านคุณค่าทางโภชนาการ ที่มีการตรวจทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ความชื้น น้ำตาล วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส โพแทสเซียม สังกะสี โซเดียม ซีลีเนียมนั้น
ผลการตรวจสอบพบว่า ยังมีคุณค่าทางโภชนการไม่ต่างจากข้าวสารเก่า 2 ตัวอย่างที่ซื้อจากตลาดทั่วไป และนำมาตรวจสอบเปรียบเทียบกัน
ขณะที่ข้าวสารเก่า ที่ซื้อจากตลาดทั่วไป 2 ตัวอย่าง ผลการตรวจสอบออกมากลับเซอร์ไพรส์มากกว่า!!
เนื่องจากพบมอดมีชีวิต หนอนมอดมีชีวีและชิ้นส่วนแมลง พบเชื้อราอะฟลาทอกซิน และเชื้อรา Zearalenone อีกทั้งยังพบตะกั่ว ปรอท และสารหนู ปนเปื้อนในปริมาณไม่เกินมาตรฐานความปลอดภัย และไม่พบสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช 250 ชนิด
นอกจากนี้ ในการแถลงข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวยิงคำถามว่า “กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์การันตีข้าว 10 ปีรับประทานได้ไม่อันตราย” นพ.ยงยศ กล่าวว่า “ไม่ใช่ข้าว 10 ปี ต้องบอกว่าข้าวที่กรมได้รับ ส่งมาจากกระทรวงพาณิชย์ มีคุณค่าทางโภชนาการ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน ไม่แตกต่างจากข้าวที่จำหน่ายและบริโภคอยู่ในท้องตลาดในปัจจุบัน แต่ ข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ส่งมานั้น ผิดมาตรฐานสินค้าเกษตร ในเรื่องของสิ่งปลอมปน เกี่ยวกับเศษซากแมลง และ มอดมีชีวิตที่ไม่ควรมี แต่มี”
การที่ “นพ.ยงยศ” กล่าวเช่นนั้น ยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามว่า ข้าวที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบ และ แถลงข่าวนั้น เป็นข้าว 10 ปี จากโกดังกิตติชัย หลัง 2 และ พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 จริงหรือไม่??
แม้ในการแถลงข่าว “นายกฤษณรักษ์” ยืนยันว่า เป็นข้าวตัวอย่าง ที่ “นายภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์” พาสื่อลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.67 จริง ซึ่งหลังจากที่หุงพิสูจน์แล้ว ก็ได้นำตัวอย่างข้าวกลับมาที่อคส.และส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ
สาเหตุที่สังคมยังไม่ปักใจเชื่อ แม้ผลการตรวจสอบนี้ตรง กับผลตรวจสอบของห้องแล็บเอกชนที่ “ข่าว 3 มิติ” ได้ส่งไปให้ตรวจสอบว่าข้าว 10 ปีปลอดภัย
เพราะผลตรวจสอบ “ค้าน” กับผลของ “อาจารย์อ๊อด” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ใช้เพียง “Test Kit” อุปกรณ์ที่ใช้ประจำของศูนย์วิจัยข้าว ตรวจสอบและพบว่า
มีสารก่อมะเร็งมีอันตรายมาก อยู่ในระดับไม่ปลอดภัย ไม่ควรนำมารับประทาน ซึ่งเป็นการตรวจซ้ำ 3 ครั้ง และพบ 1 ครั้ง
มิหนำซ้ำ จู่ๆ “อาจารย์อ๊อด” ก็ประกาศผ่าน Facebook ยุติการตรวจสอบข้าว 10 ปี ชิงตัดหน้าการแถลงข่าวของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพียง 1 วัน หลังได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่หลายฝ่าย และ ไม่อยากให้เป็นประเด็นทางการเมือง
ยิ่งสร้างความฉงนสงสัยเข้าไปอีก เกิดอะไรขึ้นกันแน่?? จนนำมาซึ่งเสียงเรียกร้องให้ตรวจ DNA ข้าวว่าใช่ “ข้าว 10 ปี” จริงหรือไม่
“ภูมิธรรม” วอนจบดราม่า อยาทำลายข้าวไทย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พ.ค.67 “นายภูมิธรรม” บอกว่า น่าจะหมดข้อกังวลใจได้แล้ว หลังจากผลตรวจสอบของกรมวิทยาศาสตร์ และห้องแล็บเอกชนออกมาตรงกัน และ เป็นผลที่ดีมาก โดยไม่พบสารจากการรมยา สารพิษตกค้าง หรือ พบตกค้างน้อยมากในปริมาณที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานเป็นหน่วยงาน ตรวจสอบที่ได้มาตรฐานทางเทคนิค
พร้อมกับย้ำว่า “ผมคิดว่าดราม่ามากเกินไป ควรยุติได้แล้ว เพื่อให้ประโยชน์เกิดกับประเทศ กระทรวงพาณิชย์ทำทุกอย่างอย่างโปร่งใส ให้สื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบเอง อย่าตั้งข้อสงสัยจนทำให้ข้าวไทยมีปัญหา และ เกิดผลกระทบต่อข้าวไทย”
โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าประมูลเป็นการทั่วไป เพื่อการบริโภค แบบยกกอง และจะต่อรองราคาให้ได้สูงสุด เพื่อประโยชน์ของประเทศ คาดว่า จะรู้ผลประมูลเดือนมิ.ย.นี้
แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าวที่ส่งไปตรวจสอบเป็นข้าวจากทั้ง 2 โกดังในจ.สุรินทร์จริงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวแต่เพียงว่า “ใครตั้งคำถามเยอะ ต้องรับผิดชอบผลเสียหายที่จะเกิดขึ้น อย่าทำลายความเชื่อมั่นข้าวไทย และประเทศไทย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผลตรวจ ข้าว10ปี จาก โครงการรับจำนำข้าว ผ่านมาตรฐาน
