ครม.อนุมัติปรับแผนหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 68 กำหนดก่อหนี้ใหม่ 1.20 ล้านล้านบาท บริหารหนี้เดิม 1.78 ล้านล้านบาท และชำระหนี้ 4.89 แสนล้านบาท พร้อมประมาณการหนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ 66.80%
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปี 68 โดยประกอบด้วยแผนก่อหนี้ใหม่ 1.20 ล้านล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 61,723 ล้านบาทเมื่อเทียบกับแผนปี 67 (ปรับปรุงครั้งที่ 3) วงเงิน 1.14 ล้านล้านบาท
ขณะที่แผนการบริหารหนี้เดิมประจำปีงบ 68 อยู่ที่ 1.78 ล้านล้านบาท ลดลง 2.45 แสนล้านบาท และแผนการชำระหนี้ 4.89 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.49 หมื่นล้านบาท
สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ในปีงบ 68 อยู่ที่ 66.80%
อย่างไรก็ตาม จากแผนดังกล่าว ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ในปีงบประมาณ 68 จะอยู่ที่ 66.80% ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด ที่ไม่เกิน 70%
สำหรับแผนการก่อหนี้ใหม่ เช่น การกู้เงินเพื่อชดเชนการขาดดุลงบประมาณปี 68 จำนวน 865,700 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลประจำปีงบ 67 และการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล เพิ่มเติมปีงบ 67 ที่มีการขยายเวลากู้เงินออกไปภายหลังจากวันสิ้นปีงบ
สำหรับการเบิกจ่ายกันเหลื่อมปี 145,000 ล้านบาท และแผนเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการหรือเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการทั่วไปของรัฐวิสาหกิจ 10 แห่ง เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และรฟท. รวม 74,760 ล้านบาท ส่วนแผนการบริหารหนี้เดิม เช่น การปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบ 68 จำนวน 1.38 ล้านล้านบาทและการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบ 69-72 จำนวน 2.79 แสนล้านบาท เป็นต้น
ด้านแผนการชำระหนี้ เช่น แผนการชำระหนี้จากงบประมาณประจำปีงบประมาณ 68 วงเงิน 4.10 แสนล้านบาท และแผนการชำระหนี้จากแหล่งเงินอื่นๆ 7.88 หมื่นล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้ อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ประกอบด้วย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การเคหะแห่งชาติ และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ที่มีสัดส่วนความสามารถในการหารายได้เทียบกับภาระหนี้ของกิจการต่ำกว่า 1 เท่า สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนประจำงบ 68 โดยให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 4 แห่งดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการบริหารหนี้ไปดำเนินการด้วย
เร่งหน่วยงานที่กู้เงินในปี 68 ให้ทำตามแผน
รวมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบเงินกู้ภายใต้แผนฯประจำปีงบประมาณ 68 เร่งดำเนินการตามแผนดังกล่าวด้วยนอกจากนี้ ยังรับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง 5 ปี(ปีงบ 68-72) และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลังประกาศตัวเลข “หนี้สาธารณะ” ไทยอ่วมยอดพุ่ง 11.47 ล้านล้านบาท