ซีอีโอ ซีพี ชี้โลกก้าวสู่ยุค 5.0 แต่การศึกษาไทยยังอยู่ในระบบ 2.0

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)


ซีอีโอ ซีพี เสนอ กมธ.การศึกษา ขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ยุค 5.0 เชื่อมแนวคิด SI Model ในร่างกฎหมายการศึกษาฉบับใหม่ให้ก้าวทันบริบทโลก

  • เด็กทุกคนต้องมีคอมพิวเตอร์
  • เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่องค์ความรู้ทั้งโลก
  • ต้องสร้างความเชื่อมโยงของโรงเรียนกับชุมชนและครอบครัวให้มีส่วนร่วม

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวในงานสัมมนา เรื่อง “เปลี่ยนการศึกษาไทย พลิกโฉมใหม่ประเทศ”  จัดโดยคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ว่า  ประเทศไทยต้องกำหนดทิศทางการพัฒนาด้านการศึกษาให้สอดคล้องกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยปัจจุบันโลกก้าวสู่ยุค 5.0 แต่การศึกษาไทยยังอยู่ในระบบ 2.0  ทั้งนี้มองว่าการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ  ในการนี้ต้องเปลี่ยนเป็นการศึกษามาสู่ระบบ 5.0 ตามการเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยี กล่าวคือ กรอบความคิดต้องเปลี่ยนจากระบบ 2.0 ที่ว่า “สอบให้ผ่าน  ทำการบ้านให้เสร็จ ทำรายงานให้ทัน ปิดเทอม”  มาสู่ 5.0 คือ “ตั้งคำถาม ค้นหาคำตอบ ลงมือทำร่วมกัน  อภิปรายด้วยเหตุผล ปรับปรุงพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ” 

“การเปลี่ยนการศึกษาไทยสู่ 5.0 ต้องกำหนดเข็มทิศอีกประการคือ การให้ความรัก ความมั่นคง และความมั่นใจกับเด็ก ครูจะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทจากผู้สอนมาเป็น “โค้ชที่ดี”  เป็นผู้นำกระบวนการเรียนรู้  (Facilitator) ที่มีความเมตตา และโรงเรียนควรปรับระบบการสอนให้เป็น Learning Center เด็กจะได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง โดยเน้นย้ำว่า เด็กทุกคนต้องมีคอมพิวเตอร์ เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่องค์ความรู้ทั้งโลก”

 ซีอีโอ ซีพี ได้เสนอกระบวนการปฎิรูปการศึกษา ด้วยโมเดล Sustainable Intelligence Transformation (SI Transformation Model) หากกฎหมายทางการศึกษาฉบับใหม่นำ SI  Model ไปปรับใช้อาจจะทำให้สามารถเปลี่ยนระบบนิเวศของการศึกษาให้ทันยุคสมัยได้  โดย 5 เสาหลักของ SI Model ประกอบด้วย  1. Transparency ความโปร่งใส ทุกโรงเรียนต้องมีรายงาน มีสมุดพกดิจิทัล ต้องมีตัวชี้วัด KPI ของโรงเรียน 

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)

2. Market Mechanism สร้างกลไกตลาดและวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพราะโรงเรียนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเด็ก ต้องสร้างความเชื่อมโยงของโรงเรียนกับชุมชนและครอบครัวให้มีส่วนร่วมพัฒนาระบบการศึกษาร่วมกัน พร้อมทั้งส่งเสริมสื่อคุณธรรมในช่วง Primetime โดยให้ Incentive เพราะห้องเรียนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศคือ สื่อ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในสังคม 3. Leadership &Talents สร้างผู้นำและครู/บุคลากรทางการศึกษาที่มีทักษะ 5.0 และเสนอว่าควรไม่จำกัดวิทยฐานะผู้อำนวยการ และต้องสร้างครูให้เป็นผู้นำกระบวนการเรียนรู้ 4. Child Centric / Empowerment เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลางให้อำนาจตัดสินใจ และ 5. Technology ควรมีการปรับสอนให้เกิดการประยุกต์เทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทัน 

อย่างไรก็ตามควรจะต้องมีการปรับปรุงระบบนิเวศการศึกษาเร่งด่วนใน 3 ด้านสำคัญคือ 1. เด็กทุกคนควรต้องมีคอมพิวเตอร์สะอาด  2. ทุกโรงเรียนจะต้องมี Learning Center เน้นการเรียนผ่านการลงมือทำในแบบ Action Based Learning ที่มีการผสมผสานความยั่งยืนควบคู่ไปด้วย และ 3. ควรมีหลักสูตรภาษาคอมพิวเตอร์

“กฎหมายทางการศึกษาต้องเน้นไปเรื่องของธรรมาภิบาล คุณธรรม ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ คนในระบบการศึกษาต้องปรับกรอบความคิดตามหลักมรรค 8 และแม้ว่าจะต้องพัฒนาการศึกษาด้วยเทคโนโลยี มีการนำเอไอเข้ามาใช้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องสอนเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมให้เป็นเนื้อเดียวกัน และจะต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในแบบ PPP  ควรให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการเป็น Learning Center พร้อมทั้งภาครัฐจำเป็นต้องมีทุนเทคสตาร์ทอัพในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ลูกหลานของเราเติบโตอย่างมีคุณภาพ และสามารถปรับตัวได้”