“เศรษฐา”- “อุ๊งอิ๊งค์” นั่งซาเล้งเยี่ยมชมตลาดชุมชน ยลวิถีชาวบ้าน

“เศรษฐา” – “อุ๊งอิ๊งค์” นั่งซาเล้งเยี่ยมชมตลาดชุมชน ยลวิถีชาวบ้าน ร่วมกิจกรรมตำข้าว โดยใช้ครกมองโบราณ และร่วมฝัดเปลือกข้าว 

  • รับฟังแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อลดการใช้สารเคมี
  • ในพื้นที่แนวทางการแก้จนภาคการเกษตร
  • การขับเคลื่อนเกษตรแปลงใหญ่ Young Smart Famer 

วันนี้ (4 ธ.ค. 66) ณ วัดสว่างชัยศรี อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะติดตามการทำเกษตรแปลงใหญ่ การแปรรูปสินค้าเกษตร และพบปะประชาชน โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมติดตามครั้งนี้ด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการทำเกษตรผสมผสานแบบพื้นบ้านของนางหนูปาน พรมโคตร ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีนั่งรถซาเล้งต่อไปยัง ณ วัดสว่างชัยศรี อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โดยได้รับการผูกผ้าขาวม้าจากกลุ่มสตรีแม่บ้าน อ.ศรีบุญเรือง และได้ร่วมถ่ายภาพกับประชาชน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมกิจกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นและกิจกรรมด้านการเกษตรที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Soft Power สำคัญของไทยในการช่วยขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ สร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมตลาดชุมชน ยลวิถีชาวบ้าน โดยร่วมกิจกรรมตำข้าว โดยใช้ครกมองโบราณ และร่วมฝัดเปลือกข้าว   รับฟังแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อลดการใช้สารเคมีในพื้นที่แนวทางการแก้จนภาคการเกษตร การขับเคลื่อนเกษตรแปลงใหญ่ Young Smart Famer  รับฟังแนวทางการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มแปรรูป โดยกรมประมง และประธานกลุ่มแปรรูปปลาบ้านห้วยบง ตรา 1 เดียว

ชมการจักสานจากคล้าของผู้สูงอายุ รับฟังแนวทางการยกระดับและผลักดัน ผ้าขิดสลับหมี่ ลายบัวลุ่มภู ผ้าฝ้ายแกมไหมทอมือลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัด เป็น “Soft power” ตามนโยบายรัฐบาล โดยกรมหม่อนไหม นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบ สปก. 4-01โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) และใบรับรองแหล่งผลิตพืช GAP ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร

“รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับภาคเกษตรและเกษตรกรมาโดยตลอด และจะมุ่งมั่นผลักดันให้ประเทศไทยให้เป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง ด้วยการใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะและวัฒนธรรมการเกษตรเข้ามาสร้างโอกาสเพิ่มผลิตผลที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรและยกระดับรายได้ของเกษตรกร โดยดำเนินนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ให้ความสำคัญกับการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ของประชาชน พร้อมขยายผลและสนับสนุนสินค้าของชุมชน”นายเศรษฐากล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการยกระดับผ้าไทย พร้อมช่วยส่งเสริมและผลักดันผ้าไทยให้เป็น Soft Power ที่มีคนรู้จักไปทั่วโลก พร้อมสนับสนุนการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์สินค้าให้มีความทันสมัยมากขึ้น ดูแลรักษาง่ายเพื่อเป็นการต่อยอดสินค้าผลิตภัณฑ์สำหรับการเปิดตลาดให้กับคนรุ่นใหม่มากขึ้นและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันผ้าไหมไทยในเวทีโลก

นอกจากนั้น การส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ รัฐบาลจะส่งเสริมการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยผลิตสินค้าทางการเกษตรร่วมกันบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งเป็นการช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องการลดต้นทุนทางด้านการผลิต การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันในการตลาดและมีอำนาจต่อรองในการหาปัจจัยการผลิตและจำหน่ายผลผลิตได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม อีกทั้งรัฐบาลจะส่งเสริม Young Smart Farmer โดยใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีนวัตกรรม และนำมาใช้ในกระบวนการผลิต การตลาด เพื่อให้มีผลผลิตต่อหน่วยต่อไร่เพิ่มขึ้น ผลผลิตมีคุณภาพ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสและขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับมาตรฐานของสินค้าเกษตร