พร้อมรับมือ ฝนระลอกสองภาคใต้ สัปดาห์นี้ นายกฯ “แพทองธาร” ประชุมวีดีโอคอล 12 ผู้ว่าฯ จว.ใต้ สั่งพร้อมรับมือฝนระลอกสองภาคใต้ 12 ธันวาคมนี้ พร้อมขอบคุณส่วนราชการพื้นที่ลดขั้นตอนพื้นที่ไม่ต้องรอเงินเยียวยานานหลัง มท1 รายงานจ่ายแล้วเกือบ 90 เปอร์เซนต์
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เพื่อรับรายงานความเสียหาย และการเตรียมการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย(ผ่านระบบ Video Conference กับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้) โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าร่วม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ 12 จังหวัดและได้ประชุมกับผู้ว่าราชการทั้ง 12 จังหวัด โดยแจ้งว่า ได้ปรับหลักเกณฑ์ การอนุมัติเงินฉุกเฉินระดับจังหวัด จาก 20 ล้านเป็น 70 ล้านบาท และก่อนหน้านี้ ครม.ได้อนุมัติงบประมาณ 5 พันล้านบาทในการช่วยเหลือ รายละ 9000 บาทไปแล้ว โดยได้จ่ายเยียวยาเบื้องต้นไป แล้วกว่า 2,700 ล้านบาท ซึ่งขอบคุณจังหวัด ที่สามารถเทยอยมอบให้ ประชาชนได้อย่างรวด เร็ว ไม่เหมือนในอดีตที่ต้องรอนานหลายเดือน กว่าจะได้รับ
นายกฯกำชับให้ ศปช.ส่วนหน้าให้เตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ ศปช.ส่วนหน้าให้เตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเนื่องจากสัปดาห์นี้ในวันพฤหัสที่ 12 ธันวาคมนี้ ศปช.ได้แจ้งเตือนแล้วว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมได้ที่ขอให้ส่วนหน้าเตรียมพร้อมรับมือให้ทันสถานการณ์ตลอด24 ชม
นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ทำงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. ที่มีนายภูมิธรรม เป็นประธานคณะทำงาน ได้มีการสั่งการคนที่ดูแลพื้นที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที ที่ผ่านมานายประเสริฐจันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ลงพื้นที่ไปแล้ว โดยได้รายงานพื้นที่ประสบอุทกภัยกลับมา รัฐบาลยินดีพร้อมที่จะดูแลประชาชนขณะเดียวกันได้รับเสียงสะท้อนจากหลายจังหวัดว่าระดับน้ำลดลงตนเองรู้สึกอุ่นใจขึ้น แต่สถานการณ์น้ำในพื้นที่ใดยังมีจำนวนมากหากยังไม่ได้รับความช่วยเหลือขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ถนน น้ำประปา ที่ติดปัญหาก็ขอให้แจ้งให้ชัดเจน เพื่อจะได้ส่งความช่วยเหลือให้ถูกต้อง เพราะต้องการให้ประชาชนกลับมามีชีวิตที่ปกติได้รวดเร็ว
พื้นที่น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ภาพรวมกลับมาเป็นปกติแล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ล่าสุดตนเองได้กลับไปดูพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ภาพรวมกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ยังต้องบำรุงรักษาให้เกิดความสวยงามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดพร้อมเปิดการท่องเที่ยวแล้ว ดังนั้น ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ถือว่ามีบทเรียน และมีกรณีตัวอย่างจากทางภาคเหนือและอีสานแล้ว จึงสามารถที่จะลงช่วยเหลือพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมก็ถือว่ามีข้อดีอยู่บ้าง นั่นคือ การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
ภายหลังรับฟังรายงานความเสียหาย และการเตรียมการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ผ่านระบบ Video Conference กับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้) นายกรัฐมนตรีกล่าวขอขอบคุณผู้ว่าราชการภาคใต้ 12 จังหวัด ที่ได้ทำงานอย่างทุ่มเทเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมกับสั่งการให้ดำเนินการ ดังนี้
นายกฯสั่งการให้ดำเนินการ 4 ด้าน
1. ด้านชีวิตความเป็นอยู่ ให้ทุกหน่วยงานเร่งเข้าให้การช่วยเหลือดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ทั้งด้านที่อยู่อาศัย ดูแลด้านการดำรงชีพเบื้องต้นให้เพียงพอ และให้พิจารณาถึงความต้องการพิเศษโดยเฉพาะผู้ประสบภัยกลุ่มเปราะบาง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนการฟื้นฟูในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการประกอบอาชีพ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
2. ด้านสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐาน เร่งฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าและระบบน้ำประปา ในพื้นที่ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายให้กลับมาให้บริการประชาชนได้ตามปกติโดยเร็ว ออกมาตรการลดผลกระทบเรื่องค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ไฟฟ้า ประปาระบบโทรคมนาคม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยเร็ว
3. การเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดจังหวัดดำเนินการ ดังนี้ เร่งรัดการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ซี่งได้เห็นชอบใช้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ครัวเรือนละ9,000 บาทโดยให้สามารถเบิกจ่ายถึงมือประชาชนได้โดยเร็ว
4. การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ในห้วงต่อไป ให้หน่วยงานในพื้นที่เฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์ และแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแจ้งแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย โดยให้อพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว/พื้นที่ปลอดภัยที่หน่วยงานภาครัฐจัดไว้ให้ ก่อนเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ ให้เตรียมความพร้อมทรัพยากรทุกด้าน ทั้งด้านเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย กำลังเจ้าหน้าที่ ไว้ประจำในพื้นที่เสี่ยง ให้พร้อมปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดภัย
“คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 12 – 16 ธันวาคม 2567 จะเกิดฝนตกต่อเนื่องในปริมาณที่หนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง ตรังปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอเน้นย้ำเรื่องการแจ้งเตือนภัยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง และเตรียมตัวอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขอให้เร่งสำรวจความเสียหายภายหลังสถานการณ์คลี่คลาย ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้กำชับทุกภาคส่วนให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน รวมถึงมาตรการเยียวยาต่างๆ ได้ใช้แนวทางการช่วยเหลือเหตุการณ์ในภาคเหนือ ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น” นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ภูมิธรรม’ สั่งเตรียมพร้อมล่วงหน้า รับมือสถานการณ์น้ำภาคใต้อีกระลอก