บริษัท Leonardo S.p.A บริษัทเทคโนโลยีอวกาศที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี แสดงความสนใจลงทุนและตั้งสำนักงานในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสินโพสต์ในแพลตฟอร์ม “X” ว่าเช้านี้ผมหารือกับคุณ Lorenzo Mariani, Co-General Manager และคุณ Marco De Fazio, Managing Director of Electronic Division บริษัท Leonardo S.p.A บริษัทเทคโนโลยีอวกาศที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี
“ทาง Leonardo S.p.A บอกว่า เมืองไทยเป็นตลาดที่สำคัญ และสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทยมาก เพราะเห็นโอกาสจากนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของเรา โดยเฉพาะ IGNITE THAILAND ที่ไทยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) และศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาค (Logistic Hub) รวมถึง Mega project อย่าง Landbridge ที่เรากำลังจะมี Leonardo S.p.A สนใจที่จะมาขยายธุรกิจและตั้งออฟฟิศที่ประเทศไทยครับ”
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ เวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโรม ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง) ณ ห้อง Earth Lab Creative Event Space โรงแรม Six Senses นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบหารือ นาย Lorenzo Mariani, Co-General Manager และนาย Marco De Fazio, Managing Director of Electronic Division บริษัท Leonardo S.p.A.
บริษัท Leonardo S.p.A. เป็นบริษัทเทคโนโลยีอวกาศที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี และเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ผลิตเฮลิคอปเตอร์, ส่วนประกอบของเครื่องบิน, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับเครื่องบิน, และผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Solutions)
นายกรัฐมนตรียินดีที่บริษัทให้ความสนใจหารือความร่วมมือทั้งทางด้านธุรกิจและการลงทุนกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศไทย
โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือพิจารณาความพร้อม และความเป็นไปได้ในการขยายความร่วมมือกับประเทศไทย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้พิจารณาใช้ประเทศไทยเป็นสำนักงานภูมิภาค (Regional Office) และให้การฝึกอบรมนักบินในภูมิภาค
นายกฯ หารือ Generali บริษัทประกันภัยชั้นนำระดับโลก
นางรัดเกล้ากล่าวด้วยว่า นายกฯ หารือกับ นาย Jaime Anchustegui, CEO บริษัท Generali International
บริษัท Generali เป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยและการจัดการสินทรัพย์ชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก โดยเข้าไปขยายธุรกิจในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มีตัวแทนจำหน่ายประกันภัยรวมกว่า 164,000 คนและมีลูกค้ากว่า 70 ล้านคน ผลิตภัณฑ์หลัก คือ การประกันภัยแบบครบวงจร ทั้งสำหรับรายบุคคลและรายบริษัท
นายกรัฐมนตรียินดีที่บริษัทให้ความเชื่อมั่นดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งในฐานะที่เป็นบริษัทชั้นนำในตลาดประกันภัย นายกรัฐมนตรีขอให้บริษัทพิจารณาโอกาสการลงทุนและขยายธุรกิจในไทย
บริษัทฯ เชื่อมั่นในแนวทางการดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อประโยชน์ร่วมกันต่อไป
นายกฯแจงทำไมต้องคุยกับ Formula One Group
นายกฯโพสต์ในเฟซบุคถึงเหตุผลที่ต้องไปคุยกับ Formula One Group ว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราต้องไปคุยกับ Formula One Group เพื่อดึง F1 มาแข่งที่ไทย
นายกฯกล่าวว่า จากการหารือ ประเทศไทยเรามีโอกาสและศักยภาพที่จะจัดการแข่งขัน F1 ทั้งแบบ Race Circuit หรือ Street/Road Circuit เพราะโดยเฉพาะในกรุงเทพที่มีทัศนียภาพสวยงาม ในการจัดงานแข่งเอง จะต้องมีการปรับปรุง ก่อสร้าง ต่อเติม ทั้งปรับปรุงถนนให้รองรับการแข่งขันได้ การสร้างที่นั่งชม Pit Stop การติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้าน Electronic & Digital เกิดการจ้างงานจำนวนมาก เกิดรายได้ และเกิดการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน
“ทั้งหมดจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีม F1 และผู้ประกอบการไทย เช่นเดียวกับการจ้างงานทั้งแบบ Temporary และ Full-time ที่จะมาทำงานในอุตสาหกรรม Motor Sport นี้ จะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งการบริหารจัดการ การวางแผนกลยุทธ์ การจัดกิจกรรมต่าง ๆ จะเป็นประสบการณ์ระดับโลกที่คนไทยเราจะเข้าถึงยากหากเราไม่ได้มีการจัดการแข่งขัน F1 ในประเทศครับ”
“คนจำนวนมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกจะมาเมืองไทยเพื่อมาชมการแข่งขัน มากิน มาพัก มาเที่ยว มาใช้เวที F1 ในการเป็นที่ประชุมเจรจาการค้า การลงทุน รวมถึงมาจัดงานอื่น ๆ ต่อเนื่อง ภาคท่องเที่ยวและบริการ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ภาคการคมนาคมขนส่ง จะได้รับประโยชน์เต็ม ๆ ทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้น และแรงจูงให้พัฒนาทักษะทางด้านภาษา”
“ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นเจ้าภาพ F1 ได้ และการจัด F1 จะนำการจ้างงาน รายได้ และความรู้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทย สร้างประโยชน์มหาศาลต่อคนไทยในหลายมิติ อยากให้ทุกคน โดยเฉพาะแฟน ๆ Motor Sport ช่วยกันเป็นกระบอกเสียง และช่วยผลักดันให้ไทยได้เป็นเจ้าภาพ F1 เพื่อเศรษฐกิจไทย เพื่อคนไทยทุกคนครับ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯเศรษฐา นำคณะ นักธุรกิจไทย บุก ฝรั่งเศส อิตาลี