นายกฯ แพทองธาร มอบหมาย รองนายกฯ – รมว.สานต่อข้อเสนอกกร.ขีดเส้นแก้ปัญหา 4 ประเด็น

กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกฯ แพทองธาร มอบหมายรองนายกฯ – รมว.สานต่อข้อเสนอกกร.ขีดเส้นแก้ปัญหา 4 ประเด็น


นายกฯ แพทองธาร มอบรองนายกฯ – รมว.สานต่อข้อเสนอกกร.ขีดเส้นแก้ปัญหาร่วมกัน 4 ประเด็น หาทางออกเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าศักยภาพมานานกว่า 10 ปี

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ว่าจากการหารือกับคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบไปด้วยประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มีกรอบในการหารือที่สำคัญ 4 ข้อได้แก่ เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการในการช่วยเหลือเอสเอ็มอี การบริหารจัดการน้ำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้งเกิดขึ้นอีกในอนาคต และสุดท้ายคือเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ทั้งนี้เพื่อให้ข้อเสนอของภาคเอกชนได้รับการสานต่ออย่างเป็นรูปธรรมนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการไปยังรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดังนี้

ให้เร่งแก้ปัญหา 4 ประเด็น

1.มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ประสานงานร่วมกับเอกชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยที่โตต่ำว่าศักยภาพมานานกว่า 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีจุดมุ่งหมายที่ต้องแก้ไขหนี้ครัวเรือนของประชาชน ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะมุ่งไปที่การแก้ไขลดปัญหาหนี้สินของครัวเรือนและเอสเอ็มอี โดยในส่วนของหนี้ครัวเรือนจะครอบคลุมทั้งผู้ที่กู้เงินสำหรับที่อยู่อาศัยหลังแรก หนี้ของรถกระบะและรถปิกอัพที่ทำมาหากิน นอกจากนี้ยังให้เร่งมาตรการแก้หนี้เอสเอ็มอีที่รัฐบาลเตรียมไว้ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว

2.มอบหมายให้นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ดูแลในเรื่องของการปรับปรุงข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจซึ่งเป็นต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งขั้นตอนที่ล่าช้าในการออกใบอนุมัติอนุญาตทำให้เอกชนได้รับความเสียหายทางธุรกิจจำนวนมากในแต่ละปี

3.เรื่องของการบริหารจัดการน้ำนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้นำเอาแผนงานการบริหารจัดการน้ำที่มีการทำไว้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีการทำไว้มาดำเนินให้เป็นรูปธรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง และให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการทำเกษตรกรรมในอนาคต 

4.มาตรการในการแก้ปัญหาสินค้าออนไลน์ และสินค้าไม่ได้คุณภาพที่เข้ามาตีตลาดสินค้าไทยจนกระทบกับผู้ประกอบการในประเทศไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่ง ครม.ได้มีการมอบหมายให้นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำเนินการหามาตรการมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้ภายใน 1 เดือน

“ปัจจุบันสินค้าออนไลน์ที่สั่งเข้ามาจำนวนมากมาจากต่างประเทศเมื่อมีการนำเข้ามามากๆก็ทำให้ผู้ผลิตสินค้าในประเทศประสบปัญหาจึงต้อง มีมาตรการในการควบคุม” นายกรัฐมนตรีได้สั่งการใน 3 ประเด็นคือ 1.การขายสินค้าออนไลน์ต้องจดทะเบียนธุรกิจในไทย เพื่อให้มีการควบคุมสินค้าและคุณภาพและเข้าสู่ระบบภาษี2.สินค้าที่นำเข้ามาและมาจำหน่ายในประเทศไทยต้องได้รับมาตรฐานสินค้า มอก. และ 3.สินค้าอาหารและยาที่มีการนำเข้ามาต้องมีใบรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ด้วยเพื่อดูแลในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัยให้กับคนไทย

กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งตรวจสอบสินค้า มอก.

นายเอกนัฐ พร้อมพันธ์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่ากระทรวงมีนโยบายเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ มอก. โดยล่าสุดได้รับร้องเรียนจากผู้ผลิตสายไฟฟ้าว่า สายไฟที่วางขายในห้างโมเดิร์นเทรดไม่ได้มาตรฐานจริงทั้งที่มีตรา มอก. จึงให้เจ้าหน้าที่ลงไปเก็บสินค้าทั้งตลาดมาตรวจสอบ โดยจาก 80 บริษัท พบว่า 15 บริษัท ยกเลิกกิจการไปแล้ว เหลืออีก 65 บริษัท สินค้าไม่ผ่านมาตรฐานถึง20บริษัท โดยสายทองแดงมีขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน ทั้งนี้เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ จึงสั่งให้เอาจริง ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทั้งทางแพ่งและทางอาญากับผู้ผลิต และจะตรวจสอบปลั๊กและปลั้กพ่วงต่อไปด้วย

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กกร. พบ นายกฯ “แพทองธาร” มอบสมุดปกขาว ให้เร่งแก้ปัญหาหาเศรษฐกิจ