กกร. พบ นายกฯ “แพทองธาร” มอบสมุดปกขาว ให้เร่งแก้ปัญหาหาเศรษฐกิจ

นายกฯ แพทองธาร หารือ กกร.
กกร. พบ นายกฯ “แพทองธาร” มอบสมุดปกขาว ให้เร่งแก้ปัญหาหาเศรษฐกิจ


กกร. พบ นายกฯ “แพทองธาร” มอบสมุดปกขาว ให้เร่งแก้ปัญหาหาเศรษฐกิจ นายกฯรับปากช่วยไม่ให้มีการยึดรถกะบะ พร้อมฟื้นกรอ.ให้ประชุมทุก 6 เดือน ขุนคลังรับพิจารณามาตรการซื้อสินค้านำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษี “ผยง”เผยอีก 1-2 สัปดาห์ได้ข้อสรุปแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยได้มอบสมุดปกขาวซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชน เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ให้กับนายกรัฐมนตรี

หลังจากหารือร่วมกัน 1 ชั่วโมง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสหากรรมแห่งประเทศไทย และนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าว

สนั่นนายกฯรับปากช่วยไม่ให้มีการยึดรถกะบะ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้บรรยากาศดีมาก  เช่นมาตรการที่ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือไม่ให้ยึดรถกะบะหรือรถปิคอัพที่ขาดส่งค่างวดสำเร็จแล้ว โดยเป็นการชั่วคราวซึ่งจะทำให้คนที่ประกอบอาชีพที่ใช้รถประเภทนี้สามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปได้รัฐบาลรับเรื่องนี้ไปดำเนินการโดยจะร่วมกับ ธปท. ธนาคาร และไฟแนนซ์ ซึ่งเรื่องนี้ใช้เงินไม่มาก แต่ต้องมีการคัดกรองเพื่อกลุ่มคนที่เดือดร้อนจริงๆ เช่น รถปิคอัพราคา 800,000 บาท ผ่อนไปแล้ว400,000 บาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็แซวว่า ธนาคารกำไรดีก็ต้องมาสนับสนุน

“ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือกกร.วันที่ 4 พ.ย.นี้จะมีการประกาศมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมทำกันมาตั้งแต่ช่วงที่นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาตรการไม่ยึดรถปิคอัพ อาจจะประกาศไม่ทันในการแถลงข่าวของกกร.วันที่ 4 พ.ย.นี้”

ตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.)

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.) ซึ่งเป็นเวทีทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือกัน เกี่ยวกับข้อเสนอแนะในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนการแก้ไขอุปสรรคต่างๆอย่างตรงประเด็น โดยจะมีการประชุมอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้เต็มศักยภาพ โดยมีเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3-5% ในอนาคตอันใกล้

“การกระตุ้นเศรษฐกิจถือว่ามีความจำเป็นในช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว จึงเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ มุ่งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจไปยังกลุ่มเปราะบางเป็นสิ่งเร่งด่วนก่อน รวมทั้งมาตรการคูนสอง หรือมาตรการคนละครึ่ง และมาตรการ Easy e-Receipt และมาตรการภาษีต่างๆที่จะจูงใจให้ประชาชนมีการใช้จ่ายมากขึ้น อยากให้รัฐบาลออกมาโดยเร็วก่อนที่จะถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งกระทรวงการคลังได้รับไปพิจารณา”

นอกจากนั้น ได้แจ้งให้รัฐบาลรับทราบว่าจากการหารือกับสมาคมการค้าไทยจีนรัฐบาลจีนยินดีในกรณีที่ไทยจะมีการออกกฏหมายหรือมีมาตราการภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าจีน มาตรการควบคุมการค้าแบบอี-คอมเมิร์ซ หรือปราบปรามคนที่ไม่สุจริตและสินค้าที่คุณภาพไม่ดี

ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ กกร.ประกาศมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งระบบ

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ใน 1-2 สัปดาห์นี้ มาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งระบบ ที่หารือกันมาตั้งแต่เดือนต.ค.2566 จะได้ข้อสรุป ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ครอบคลุมหลายส่วน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ต้องการได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มลูกหนี้ที่กู้เงินซื้อบ้านหลังแรก กลุ่มลูกหนี้ที่ใช้รถกระบะในการประกอบอาชีพ และทำมาหากิน กลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ซึ่งมาตรการนี้จะมีทั้งลดภาระเงินต้น ลดดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้กลุ่มเปราะบางที่มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งจะออกมาเป็นมาตรการคู่ขนานทั้งเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ รวมทั้งแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินที่จะเป็นสินเชื่อเพิ่มเติมเข้ามาในระบบมากขึ้น

สำหรับ มาตรการในส่วนนี้จะเป็นมาตรการที่จะเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนที่จะมีมาตรการระยะกลาง และระยะยาวเข้ามาช่วยเหลือที่เป็นมาตรการในลักษณะของการเพิ่มทักษะ เพิ่มความสามารถให้กับลูกหนี้เพื่อให้สามารถที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในระยะยาว

“การให้ความช่วยเหลือในมาตรการที่จะออกมาเป็นมาตรการที่จะช่วยเพื่อให้ลูกหนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความจำเป็นในระยะสั้นแต่ก็จะดูให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาในระยะกลางและระยะยาวด้วย แต่จะไม่ใช่การช่วยเหลือเพื่อให้ไปบริโภคแบบฟุ่มเฟือยที่จะเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐไปอย่างสิ้นเปลือง เพราะจะมีมาตรการการเงินบางส่วนจากภาครัฐเข้ามาสนับสนุน”

คลังคาดเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 2.7 – 2.8%

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า เดิมคาดว่าผลกระทบอุทกภัยที่เกิดขึ้นจะทำให้จีดีพีปีนี้เติบโตได้แค่2.4% แต่เมื่อรัฐบาลได้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจไปก่อนหน้านี้โดยมีมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทให้กับ 14.5 ล้านคน คาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 2.7 – 2.8%

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ แพทองธาร คิกออฟแคมเปญ “ฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ทั่วไทย ดึง “รายใหญ่” ช่วย “รายเล็ก”