สมช.ชี้สงครามอิสราเอลขยายวง เตรียมนำคนไทยประเทศใกล้เคียงกลับ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)


“เศรษฐา”นั่งหัวโต๊ะประชุมสมช.ประเมินสถานการณ์อิสราเอลน่าเป็นห่วงสงครามขยายวงออกไประดับภูมิภาค ห่วงคนไทยในประเทศข้างเคียง  เตรียมแผนอพยพกลับไทย

  • เตรียมพร้อมรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจหากสงครามบานปลาย
  • คุยรมว.พลังงานเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานประเทศ

“แรงงานจำนวนหนึ่ง ที่เราไม่ทราบจำนวนจริงๆ  ฝ่ายความมั่นคงระบุว่ามีแรงงานไทยจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้แจ้งตอนออกไป เป็นแรงงานที่ไปโดยไม่ถูกต้อง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือ เสาะหาให้ได้ว่าคนเหล่านี้อยู่ที่ไหน”

วันนี้(2พ.ย.66)นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ว่า มีวาระเรื่องการแต่งตั้งเลขาธิการสมช.แต่ยังคอยเรื่องกฎหมายอยู่ อาจใช้เวลาประมาณ 10 วัน ยืนยันไม่มีปัญหาอะไร สมช.ทำงานได้เต็มสมรรถภาพอยู่แล้ว

“เรื่องที่ใช้เวลาส่วนมากคุยเรื่องปัญหาที่อิสราเอล ถกกันนาน มีการแจ้งสถานการณ์แบบเชิงลึก อะไรที่พูดได้ก็จะพูด มีอีกหลายเรื่องที่ต้องระมัดระวังเรื่องความละเอียดอ่อน เรื่องตัวประกันเป็นเรื่องสำคัญ สาระสำคัญคือ สงครามมีแนวโน้มขยายวงกว้าง ไม่ใช่แค่คู่ขัดแย้ง 2 ฝ่าย มีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวไปในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะ จอร์แดน และเลบานอน ซึ่งมีประมาณ 10ประเทศแล้ว ที่เริ่มเข้าไปพูดคุยกับประชาชนของเขาที่อยู่ใน 2 ประเทศนี้ให้พิจารณาเรื่องการอพยพ เดี๋ยวทางเราจะไปประเมินกันอีกทีว่าต้องมีการแจ้งให้ทราบถึงปัญหาที่จะลุกลามไปในระดับภูมิภาคซึ่งมีความเป็นไปได้” นายเศรษฐากล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า เหตุผลที่พอจะทำให้รู้ว่าสงครามจะขยายวงไป เนื่องจากมีการทำสงครามทางด้านไซเบอร์ และโดรน เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นเป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความเป็นห่วง จะขยายวงกว้างไปสู่ประเทศใกล้เคียงด้วย แรงงานไทยที่อยู่ในประเทศนั้นๆ ก็จะต้องมาพิจารณาว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ที่อิสราเอลเอง ตอนนี้แรงงานที่แจ้งความจำนงกลับประเทศก็ใกล้หมดแล้ว วันนี้ไฟลท์ที่บินกลับไทยก็ว่างประมาณ 100 กว่าที่นั่ง ไม่อยากใช้คำว่าหมดภารกิจของรัฐบาล แต่ก็ต้องพูดคุยต่อเนื่องกับคนที่ยังอยู่ว่า มีแนวโน้มของความรุนแรงของสงครามที่จะขยายวงออกไปก็ต้องออกมา

 “ตรงนี้ก็มีความกังวลอีกว่า มีแรงงานจำนวนหนึ่ง ที่เราไม่ทราบจำนวนจริงๆ  ฝ่ายความมั่นคงระบุว่ามีแรงงานไทยจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้แจ้งตอนออกไป เป็นแรงงานที่ไปโดยไม่ถูกต้อง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือ เสาะหาให้ได้ว่าคนเหล่านี้อยู่ที่ไหน แล้วแจ้งตรงไปให้ทราบรุนแรงของสงคราม  เขาจะได้ตัดสินใจกลับมา ไม่ว่าจะไปโดยถูกต้องหรือไม่ถูกต้องเรายินดีรับกลับมาได้ และแรงงานที่ยังไม่ตัดสินใจไม่กลับ เราต้องการสื่อสารไปโดยตรงจากรัฐบาลให้ทราบว่า สถานการณ์มีความรุนแรงอย่างไร อย่างน้อย พี่น้องที่อยู่ที่นั่นจะได้รับทราบความรุนแรงของสถานการณ์เองจากรัฐบาล ได้คุยกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานเรื่องที่จะหารายชื่อ และมีทางติดต่อได้ก็จะติดต่อไปแจ้งว่าสถานกาณณ์รุนแรงขนาดไหนต่อไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ส่วนเรื่องของตัวประกัน จะพูดคุยกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศที่เพิ่งบินกลับมา และผู้บัญชาการทหารสูงสุดให้ข้อมูลมา ตอนนี้ทุกฝ่ายช่วยเต็มที่ แต่การให้ข่าว ต้องประสานข้อมูลกันให้ดีจะได้ไม่สับสน แนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่เรายังไม่ทราบว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร เป็นเรื่องความละเอียดอ่อน ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเราให้ความสำคัญสูงสุด

เมื่อถามว่า เมื่อแนวโน้มของสงครามจะขยายวงกว้างออกไป มีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจกันอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็คุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ว่าถ้าวงสงครามขยายวงกว้างจะมีผลกระทบต่อพลังงานอย่างไร ต้องสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ  แต่ข้อดีอย่างหนึ่งคือประเทศที่จะขยายวงกว้าง มีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับไทยน้อย แต่ก็ต้องระมัดระวัง ความปลอดภัยของคนไทยสำคัญที่สุด ดังนั้นจะต้องไปเขียนแผนเรื่องการอพยพคนที่อยู่ในประเทศที่สงครามขยายวงออกไปกลับประเทศ และต้องเริ่มแจ้งเตือนให้ออกมา