“เศรษฐา” เดินหน้า อีอีซี ให้ลงทุนจริงปีละแสนล้านบาท

EEC รัฐบาล การลงทุน
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ อีอีซี

นายก “เศรษฐา” เร่งเดินหน้า อีอีซี ซึ่ง เศรษฐา สร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้มีการลงทุนจริงปีละแสนล้านบาท

อีอีซี การลงทุน รัฐบาล
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ คณะ อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เดินทาง ลงพื้นที่ ตรวจราชการ จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง เพื่อ ติดตาม โครงการสำคัญ ตามนโยบายของรัฐบาล

โดยเฉพาะ มาตรการส่งเสริมการลงทุน ในพื้นที่เขต พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี โดยมี นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี รายงาน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ

พลเรือเอก อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ รายงานโครงการก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับที่เกี่ยวข้อง และนายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด รายงานการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก

พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ สนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ทั้งนี้ ความก้าวหน้าการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี และการก่อสร้างโครงการ พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และ เมืองการบินภาคตะวันออก

อีอีซี รัฐบาล การลวทุน
มาตรการส่งเสริมการลงทุน ในพื้นที่เขต พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี

อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 เปิดให้บริการในปี 2572

โดยปัจจุบัน มีความก้าวหน้า โดยเฉพาะงานด้านระบบสาธารณูปโภค ที่สำคัญ ๆ เช่น ระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น ก่อสร้างแล้ว 26.42% ระบบบริการเติมเชื้อเพลิงอากาศยาน ก่อสร้างแล้ว 48.41% และงานด้านประปาและบำบัดน้ำเสีย ก่อสร้างแล้ว 98.44% เป็นต้น ในส่วนการประสานแจ้ง ให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการฯ (NTP) คาดว่าจะสามารถแจ้ง NTP ได้ภายในปี 2567 นี้ เพื่อ เริ่มก่อสร้างงานสำคัญ ๆ เช่น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารเทียบเครื่องบินรอง และ ศูนย์ธุรกิจการค้า เป็นต้น ซึ่งคาดว่าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ จะสามารถเปิดให้บริการในปี 2572

โดยการพัฒนา สนามบินอู่ตะเภาฯ จะก้าว สู่ศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค เป็น สนามบินนานาชาติ ที่ได้มาตรฐานโลก รองรับ การเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน เชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่ภาคธุรกิจ เป็นศูนย์กลาง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ ขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นใจ และเป็นปัจจัยสำคัญดึงดูดให้นักลงทุนเข้าสู่พื้นที่อีอีซี

รถไฟความเร็วสูงได้ข้อสรุปในปลายเดือนกรกฎาคม

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ซึ่งเป็นโครงการลงทุนเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่ยังติดปัญหาความล่าช้าบ้าง เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าภายในปลายเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ จะได้ข้อสรุปทั้งหมดเกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการฯ ดังกล่าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการลงทุนในมาตรฐานระดับโลก และแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง

เอกชนสนใจใช้ สิทธิประโยชน์อีอีซีกว่า 30 ราย ลงทุน 2.1 แสนลบ.

โดยขณะนี้ ความคืบหน้าการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี มีภาคเอกชนได้เข้ามาหารือกับ อีอีซี และสนใจใช้ สิทธิประโยชน์ตามประกาศสิทธิประโยชน์ฉบับใหม่อยู่กว่า 30 ราย วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.1 แสนล้านบาท ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ทีได้ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ได้แก่ อุตสาหกรรมการแพทย์ และสุขภาพ อุตสาหกรรมบริการ อุตสาหกรรมดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุตสาหกรรม BCG โดย อีอีซี ได้ตั้งเป้าหมายดึงเม็ดเงินลงทุนจริง ให้ได้ปีละ 1 แสนล้านบาท ต่อเนื่อง 5 ปี ตั้งแต่ ปี 2567 – 2571

EEC

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : บอร์ด EEC นัดต้นก.ค. ถกแก้สัญญา “ไฮสปีดเทรน”