“เศรษฐา”สะเทือนใจแรงงานไทยถูกเอาเงินมาล่อต้องเสี่ยงชีวิตอยู่อิสราเอลต่อ เป็นเหตุผลที่รัฐบาลจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเร็วที่สุด
- เพื่อซ่อมและสร้างอนาคตให้กับประชาชน
- การกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
“นโยบายการเงินการคลังที่ดีไม่ใช่แค่รักษาวินัยการเงินอย่างเดียว แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดต้องตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดี ไม่ใช่เอาชีวิตมาเสี่ยง เพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน”
วันนี้(24 ต.ค.66)นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งคือเรื่อง อิสราเอล ปัญหาที่เผชิญอยู่ เรื่องแรงงานไทยทำให้ตนเองรู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก ทำไมรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเร็วที่สุด เพื่อซ่อมและสร้างอนาคตให้กับประชาชน ลองคิดดูแรงงาน 20,000-30,000 คนต้องเสี่ยงชีวิตพอมีคนเอาเงินมาล่อก็จะอยู่ต่อ เพื่อเงินหลักหมื่นหลักแสน ซึ่งถ้าเกิดเขาถามกลับมาว่า ท่านนายกฯไม่เข้าใจหรอกว่าการที่มีคนเอาเงินมาให้ 50,000 บาทหรือ 100,000 บาท เพื่อให้อยู่ต่อ เสี่ยงชีวิต มันมีความสำคัญกับเขาขนาดไหน เรื่องนี้ตนเองตระหนักดี ดังนั้นการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้พี่น้องประชาชนนับหมื่นคนที่ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ เพื่อเอาเงินมาช่วยคนเป็นหลักแสนหรือหลักล้านได้ ที่เป็นห่วงโซ่พึ่งการดูแลจากพวกเขา ผมว่าเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจมาก
“นโยบายการเงินการคลังที่ดีไม่ใช่แค่รักษาวินัยการเงินอย่างเดียว แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดต้องตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดี ไม่ใช่เอาชีวิตมาเสี่ยง เพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน ผมได้สั่งการในครม.ให้รมว.แรงงาน และกระทรวงอื่นๆช่วยกันดูแล เมื่อแรงงานกลับจากอิสราเอลมาแล้วต้องดูแลให้ดี ผมเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านตระหนักดี” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้จำนวนผู้เสียชีวิต ถูกจับเป็นตัวประกัน และ บาดเจ็บยังเท่าเดิม และแรงงานไทยแสดงเจตจำนงขอกลับไทยมากขึ้น ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกระจายข่าวไปยังญาติพี่น้องให้โน้มน้าวคนไทยในอิสราเอลกลับมา มันไม่คุ้มหรอกถ้ายังเสี่ยงชีวิตอยู่ ขณะนี้สามารถอพยพคนไทยได้วันละ 600-800คน
