

Times Higher Education ประจำปี 2025 ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก โดย อ็อกซ์ฟอร์ด เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 9 ปีติดต่อกัน
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก สหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักรครองตำแหน่งสูงสุด ขณะที่ มหาวิทยาลัยในยุโรปกลับมีอันดับลดลง
มหาวิทยาลัย อ็อกซ์ฟอร์ด ยังคงรักษาตำแหน่งมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง ของโลก ได้เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกโดย Times Higher Education (THE) ประจำปี 2025 ที่เพิ่งเผยแพร่
ตามมาด้วยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ซึ่งขยับจากอันดับที่ 6 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 4 ในปี 2568
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ยังคงอยู่ในอันดับที่ 5 ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อน ขณะที่ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หล่นจากตำแหน่งที่ 2 มาอยู่ที่ตำแหน่งที่ 6
ส่วนมหาวิทยาลัยในเอเชียที่โดดเด่นที่สุด คือมหาวิทยาลัยซิงหัว จากประเทศจีน อันดับที่ 12 ของโลก มหาวิทยาลัยปักกิ่ง อันดับที่ 13 และมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์อันดับที่ 17 มหาวทิยาลัยโตเกียว อันดับที่ 28 มหาวิทยาลัยนันยาง แห่งสิงคโปร์ อันดับที่ 30
การจัดเกรดมหาวิทยาลัย
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกครั้งล่าสุ ดมีมหาวิทยาลัยมากกว่า 2,000 แห่ง จาก 115 ประเทศ และ ภูมิภาค
การจัดอันดับนั้นใช้ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ 18 ประการใน 5 ประเภท ได้แก่ การสอน สภาพแวดล้อมการวิจัย คุณภาพการวิจัย แนวโน้มระดับนานาชาติ และอุตสาหกรรม
การจัดอันดับปี 2025 ยังแสดงให้เห็นถึงภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนแปลง โดยมหาวิทยาลัย ในยุโรปหลายแห่งมีอันดับลดลง ในขณะที่สถาบันการศึกษาในเอเชีย ยังคงปรับปรุงดีขึ้นในระดับโลกต่อไป

มหาวิทยาลัยในเอเชียขึ้น แต่ยุโรปถดถอยลง
Times Higher Education (THE) ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยในทวีปเอเชีย ติดอันดับมากที่สุด เป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยเฉพาะมหวิทยาลัยจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ยังคงพัฒนา และ ปรับปรุงอันดับขึ้นอย่างชัดเจน สถาบันการศึกษาหลายแห่งในยุโรป กลับมีอันดับลดลงอย่างต่อเนื่อง
Phil Baty หัวหน้าฝ่ายกิจการระดับโลกของ THE กล่าวว่า แม้หลายมหาวิทยาลัยในยุโรปจะมีการขยับอันดับดีขึ้นในกลุ่ม 200 อันดับแรกของโลก แต่การแข่งขันก็เข้มข้นขึ้นทุกปี โดยเฉพาะจากมหาวิทยาลัยในเอเชีย ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสถาบันจากประเทศจีน และ เกาหลีใต้
หลายประเทศในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ เผชิญกับการลดอันดับลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เนเธอร์แลนด์ มีมหาวิทยาลัย 8 แห่งจาก 12 แห่งที่อันดับตกลง รวมถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟต์ ซึ่งร่วงไปอยู่ที่อันดับ 56 ของโลก
ในประเทศฝรั่งเศส มหาวิทยาลัย 19 แห่งจาก 50 แห่งมีอันดับลดลง โดย 10 แห่งมีอันดับต่ำที่สุด เท่าที่เคยมีมา ส่วนในสวิตเซอร์แลนด์ แม้บางสถาบันยังคงติดอันดับสูง แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการลดลงได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ประเทศในยุโรป บางแห่งกลับมีการปรับปรุงอันดับอย่างเห็นได้ชัด เช่น เยอรมนี ที่มหาวิทยาลัยเทคนิคมิวนิก ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 26 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเยอรมนี ในการจัดอันดับนี้
ยุโรป จะยังคงครองอันดับสูงกับมหาวิทยาลัยในระดับโลก โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร แต่ประเทศอย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด์ ก็ยังคงรักษาความแข็งแกร่งไว้ได้ โดยมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งติดอันดับ 100 อันดับแรก
กลุ่มประเทศนอร์ดิก อย่าง ประเทศสวีเดน เดนมาร์ก และ ฟินแลนด์ ยังคงมีความก้าวหน้าในการจัดอันดับ โดยสถาบัน Karolinska ของสวีเดน เลื่อนขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 49 ส่วนมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก ยังคงอยู่ใน 100 อันดับแรกของโลก ในอันดับที่ 97
https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/latest/world-ranking
https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/latest/world-ranking
https://thejournalistclub.com/today-at-apple-up-skill-back-to-school-apple/