

สคบ. บังคับใช้ “มาตรการส่งดี” แก้ปัญหาซื้อสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทาง ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วยปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พลตำรวจตรีวิทยา ศรีประเสริฐภาพ) ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และผู้ประกอบการให้บริการขนส่ง และแพลตฟอร์มออนไลน์รวม 7 แห่ง ร่วมแถลงข่าวมาตรการส่งดี (Dee – Delivery) การให้บริการขนส่งสินค้า โดยเรียกเก็บเงินปลายทาง(COD) ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567
นางสาวจิราพร ฯ กล่าวว่าปัจจุบัน ผู้บริโภคมีการจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเรียกเก็บเงินปลายทางมากขึ้น เพราะสะดวกสบายแค่มีเพียงโทรศัพท์เครื่องเดียว ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจบางรายหวังใช้ช่องทางนี้เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค เช่น ส่งสินค้าไม่ตรงปก มีสินค้าไปส่งแล้วเรียกเก็บเงินโดยผู้รับไม่ได้สั่ง ไม่ได้รับสินค้า สินค้าที่ได้รับมีความชำรุดบกพร่อง สินค้าสูญหาย ไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้หากเก็บเงินปลายทาง เมื่อผู้บริโภคได้ชำระเงินให้กับผู้ส่งสินค้าแล้วเกิดปัญหาต้องการที่จะขอเงินคืน ปรากฏว่าผู้ให้บริการขนส่งสินค้าได้นำเงินไปจ่ายให้กับผู้ขายสินค้าไปแล้ว และผู้บริโภคไม่สามารถติดต่อไปยังผู้ขายสินค้าได้ และไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา
ให้สคบ.ออกประกาศ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2567
รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 หรือเรียกว่า มาตรการส่งดี(Dee – Delivery) จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2567
ประกาศดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาผู้ขายสินค้า ที่ไม่สุจริตหลอกลวงผู้บริโภค คุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเกิดความเสียหายจากการสั่งซื้อสินค้าและรับบริการขนส่งจากผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งผู้บริโภคจะได้รับการชดเชยเยียวยาความเสียหาย ด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม ซึ่งจากประกาศฉบับนี้เมื่อผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง พนักงานขนส่งจะต้องลงชื่อในหลักฐานการรับเงิน และส่งมอบให้กับผู้บริโภค หากเปิดกล่องสินค้าแล้ว สินค้าไม่ตรงปก ชำรุด ไม่ได้สั่ง สามารถปฏิเสธการรับสินค้าและไม่ต้องชำระเงินได้ หรือหากผู้บริโภค เปิดกล่องสินค้าภายหลังจากที่ชำระเงินไปแล้ว พบปัญหา สินค้าไม่ตรงปก ชำรุด ไม่ได้สั่ง ต้องแจ้งขอเงินคืน ภายใน 5 วัน (นับแต่วันได้รับสินค้า)
หากมีเหตุตามที่แจ้งจริง บริษัทขนส่งต้องคืนเงินผู้บริโภค ใน 15 วัน
ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่า มีเหตุตามที่แจ้งจริง บริษัทขนส่งจะต้องคืนเงินทั้งหมด ให้กับผู้บริโภค ภายใน 15 วัน ซึ่ง สคบ. ได้เปิดเวทีหารือร่วมกันกับผู้ประกอบการขนส่ง ทำให้เกิดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน และผู้ประกอบการขนส่งยินดีร่วมมือและสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ สคบ. เพื่อให้ประกาศฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่สนใจสอบถามได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 แอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือเว็บไซต์www.ocpb.go.th
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สัปดาห์หน้า สคบ. เชิญ “BYD” ชี้แจงร่วมหาทางออกให้ผู้บริโภค