กรมราง ชี้แจงฝุ่นจากการใช้อุโมงค์ผาเสด็จ ในการเดินรถไฟวันแรก

กรมราง


กรมราง ชี้แจง สาเหตุฝุ่นตลบเข้าห้องโดยสารรถไฟชั้น 3 หลังเปิดใช้งานอุโมงค์ผาเสด็จวันแรก พร้อมประสาน รฟท. แก้ไขปัญหาด่วน หยุดใช้อุโมงค์ ให้ใช้ ให้วิ่งทางเดิมผ่านสถานีหินลับ-ผาเสด็จชั่วคราว คาดกลับมาวิ่งเข้าอุโมงค์ได้อีกครั้งตั้งแต่ 12 ส.ค.นี้

  • ประสาน รฟท. แก้ไขปัญหาด่วน หยุดใช้อุโมงค์
  • ให้ใช้ ให้วิ่งทางเดิมผ่านสถานีหินลับ-ผาเสด็จชั่วคราว
  • คาดกลับมาวิ่งเข้าอุโมงค์ได้อีกครั้งตั้งแต่ 12 ส.ค.นี้

วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า ตามที่ในสื่อโซเชียลได้มีการแชร์ภาพและคลิปฝุ่นที่เกิดจากขบวนรถไฟวิ่งผ่านอุโมงค์ผาเสด็จวันแรกและมีฝุ่นเข้ามายังห้องโดยสารพัดลมชั้น 3 นั้น จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางรางได้มีการตรวจความพร้อมของอุปกรณ์และทางรถไฟ เพื่อรองรับการใช้อุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับ

โดยได้ทดสอบในทางประธานขึ้น ไม่พบปัญหาอุปสรรค แต่ไม่ได้ทดสอบในทางประธานขาล่อง เนื่องจากยังไม่ได้เปิดใช้งานในวันทดสอบ

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวันนี้ ได้มีการเปิดใช้อุโมงค์ผาเสด็จและอุโมงค์หินลับเป็นวันแรก โดยมีขบวนรถด่วนที่ 72 (อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิีวัฒน์) วิ่งเข้าอุโมงค์เป็นขบวนแรกสำหรับเที่ยวล่อง และขบวนรถด่วนที่ 71 (กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี) วิ่งเข้าอุโมงค์เป็นขบวนแรกสำหรับเที่ยวขึ้น

โดยวันนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มีการเปิดใช้อุโมงค์เฉพาะทางล่องเท่านั้น โดยให้ขบวนรถเที่ยวขึ้นและขบวนรถเที่ยวล่องใช้ทางร่วมกัน เนื่องจากใช้การกลับประแจน้อยกว่า และเปิดใช้พัดลมระบายอากาศแบบอัตโนมัติทำงานตามทิศทางขบวนรถที่วิ่งผ่าน

กรมราง

ซึ่งส่งผลให้มีฝุ่นค้างสะสมภายในอุโมงค์ เมื่อมีขบวนรถวิ่งผ่านจึงเกิดมีฝุ่นเข้ามาในขบวนรถพัดลมดังกล่าว

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังได้รับรายงานข้อมูลฝุ่นเข้าห้องโดยสารดังกล่าวข้างต้น ได้มีความห่วงใยและประสานการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อหาข้อเท็จจริงดังกล่าวเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไข และพิจารณาปรับไปใช้ทางรถไฟเดิมที่ผ่านสถานีหินลับและสถานีผาเสด็จเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขเรื่องฝุ่นละอองภายในอุโมงค์ให้เรียบร้อยเสียก่อน

ในส่วนของระบบต่าง ๆ ที่ติดตั้งภายในอุโมงค์ มีการทำงานและดำเนินการสอดคล้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล  อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีข้อจำกัดในการเดินรถ จึงต้องมีการเพิ่มมาตรการในการลดฝุ่นละอองภายในอุโมงค์เพิ่มเติม เช่น การล้างทำความสะอาดภายในอุโมงค์ การปรับใช้พัดลมระบายอากาศแบบ manual เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศ

รวมถึง ขจัดฝุ่นละอองภายในอุโมงค์ออกไปโดยเร็ว และมีการเปิดใช้ระบบต่าง ๆ อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมตรวจวัดค่าต่าง ๆ ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ก่อนเปิดให้บริการใหม่อีกครั้ง โดยคาดว่า จะกลับมาใช้ทางใหม่ที่วิ่งผ่านอุโมงค์ผาเสด็จและอุโมงค์หินลับอีกครัังในวันที่ 12 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

โดยกรมการขนส่งทางรางจะติดตามการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

  • ดูงานท่าบกนานาชาติเทิงจวิ้น

ขณะที่เมื่อเร็วๆนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง และเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้อง

ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมศูนย์โลจิสติกส์ทัณฑ์บนเทิงจวิ้น คลังสินค้ามาตรฐานดิจิทัล 5G คลังสินค้า cold chain อัจฉริยะ และศูนย์ควบคุมของศูนย์โลจิสติกส์ทางรถไฟและถนน ของท่าบกนานาชาติเทิงจวิ้น (Tengiun International Land Port) มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

นายสุรพงษ์กล่าวว่า ท่าบกนานาชาติเทิงจวิ้น เป็นศูนย์โลจิสติกส์ครบวงจรที่สำคัญของมณฑลยูนนาน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครคุนหมิงไปทางทิศใต้ประมาณ 55 กิโลเมตร มีพื้นที่รวมกว่า 1,500 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุน 11,000 ล้านหยวน

ซึ่งมีแผนก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ ศูนย์คลังสินค้าอัจฉริยะ ศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถไฟและถนนแบบหลายรูปแบบ ศูนย์โลจิสติกส์ทันฑ์บน และศูนย์จัดหาจัดซื้อระหว่างประเทศ รวม 16 โครงการ

ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการแล้ว 6 โครงการ นอกจากนี้ คลังสินค้า cold chain อัจฉริยะได้เริ่มทดลองดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ ซึ่งสามารถรองรับผักและผลไม้ รวมถึงทุเรียนและมังคุดจากไทย ที่ต้องรักษาอุณหภูมิในการขนส่งด้วยตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container)

ภายหลังการเยี่ยมชม ตนและคณะได้เข้าร่วมประชุมหารือกับฝ่ายจีน นำโดยนายเซี่ย จวิ้นซง อธิบดีกรมคมนาคมมณฑลยูนนาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูล

และความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ระหว่างไทย-จีน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟจีน-ลาว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศไทยได้ในอนาคต

ท่าบกนานาชาติเทิงจวิ้น เป็นหนึ่งท่าบกนานาชาติใน 17 ท่าบกที่ได้รับการรับรองใน “ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลว่าด้วยท่าบก” ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิกของสหประชาชาติ

โดยมีรหัสท่าเรือนานาชาติ CNKML มีจุดเด่นสำคัญคือ การเป็นศูนย์บริการโลจิสติกส์ครบวงจร มีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับการขนส่งหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อระหว่างถนนและระบบราง

นอกจากนี้ ยังเป็นจุดแรกที่ทางรถไฟลาว-จีนเข้าสู่คุนหมิง โดยมีระยะทางรถไฟห่างจากสถานีบ่อหานประมาณ 800 กิโลเมตร ใช้เวลาขนส่งทางรถไฟจากสถานีบ่อหานถึงท่าบกเทิงจวิ้น ประมาณ 6-8 ชั่วโมง

เนื่องจากต้องรอเวลาหลีกให้ขบวนรถโดยสารวิ่งผ่านไปก่อน ปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าทางรถไฟลาว-จีนมาที่ท่าบกนานาชาติเทิงจวิ้น วันละ 5-6 ขบวน ขบวนละ 15-25 ตู้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมราง ชี้สายสีชมพูแค่หยุดก่อสร้างส่วนต่อขยาย ยังเปิดตามปกติ

: เว็บไซต์คมนาคม