“แพทองธาร” รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 มุ่งมั่นทำหน้าที่นายกฯ ทำให้ไทยเป็นประเทศแห่งโอกาสและความสุข เป็นประเทศแห่งความหวัง
- ทำให้ไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส
- และความสุข
- เป็นประเทศแห่งความหวัง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 สิงหาคม 2567 ที่อาคารวอยซ์สเปซ ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
โดยมีรัฐมนตรี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งครอบครัวของ น.ส.แพทองธาร ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บิดา คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว เข้าร่วมพิธี
จากนั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ความว่า
“ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 1 อนุมาตรา 4 ประกอบมาตรา 160 อนุมาตรา 4 อนุมาตรา 5 และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567
เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน
- มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวภายหลังรับพระรบมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต
“ดิฉัน ครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น ทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน
สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ”
นอกจากนี้ ยังกล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มอบความเชื่อมั่น และความไว้วางใจให้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ในการนำพาประเทศไทยเดินหน้า ฝ่าฟันทุกอุปสรรค แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาปากท้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
“3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ดิชั้น ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารจะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง”
เพราะภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว จึงมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชน และประชาชน
- พัฒนาศักยภาพและทักษะของคนไทย
โดยจะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและทักษะของคนไทยทุกคน และทำให้ทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินไทยเป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์ และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง
“ดิฉัน แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความหวัง เป็นประเทศแห่งความสุข ของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “แพทองธาร” จูงมือ “ทักษิณ” ร่วมรอรับราชโองการโปรดเกล้าฯ นายกคนที่ 31