พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สั่งรวมคดีหลอกขายทองคำปลอม พร้อมมอบให้ ตำรวจสอบสวนกลาง เป็นศูนย์คลี่คลายคดี เตรียมจ่อเรียก กลุ่มดารา อินฟลูเอนเซอร์ ที่ไลฟ์สดขายของด้วยกว่า 20 ราย เข้าให้ปากคำ พร้อมประสาน ปปง. เร่งตรวจเส้นทางการเงิน โดยละเอียด
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาข้าราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้า การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดหลอกขายทองคำไม่ได้คุณภาพ ว่าเบื้องต้นได้รับรายงานจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคแล้ว ว่ามีการจับกุมผู้กระทำผิด 2 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่เป็นตัวการใหญ่
โดยวันนี้ จะดำเนินการนำตัวไปฝากขัง โดยคัดค้านการประกันตัว นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ ผบก.ปคบ. ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และจากนี้ไปให้ขยายผล ว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้อง มีพฤติกรรมในการกระทำผิด เข้าข้อกฎหมายใด ซึ่งต้องไม่มีการยกเว้น ละเว้น หรือช่วยเหลือเด็ดขาด
เนื่องด้วยเหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึก และประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ เสียเงินเสียทองเป็นจำนวนมาก จากนี้ไปก็จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวน และขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยจะรวบรวมข้อเท็จจริงรวมถึงหลักฐาน และออกหมายเรียก หากพบว่ามีการกระทำความผิดเพิ่มเติม
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ได้สั่งการทุกพื้นที่เพื่อให้รับแจ้งความ เพราะมั่นใจว่า มีผู้เสียหายหลายคน ที่ไม่ได้อยู่แค่ในพื้นที่กรุงเทพฯเท่านั้น ซึ่งผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหาย และคดีนี้จะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมอบหมายให้ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เป็นผู้รับผิดชอบในคดีนี้ ส่วนจะต้องโอนคดีมาที่ บช.ก.หรือไม่ ต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากต่างกรรมต่างวาระ
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก. ปคบ. กล่าวว่า หลังจากนี้จะขยายและรวบรวมพยานหลักฐาน กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีชื่อเสียง อินฟลูเอนเซอร์ ที่ทำหน้าที่ไลฟ์สดขายของไม่ต่ำกว่า 20 คน ก็จะต้องถูกเชิญมาให้ปากคำทั้งหมด
“เบื้องต้นอาจมีความผิดเข้าข่ายหลาย พ.ร.บ. ขึ้นอยู่กับว่าเข้าไปเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน ส่วนที่บอกว่าได้ค่าจ้างแต่อ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ประเด็นนี้ต้องตรวจสอบว่า เหตุผลฟังขึ้นหรือไม่ แต่ทุกอย่างจะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้ามีพฤติการณ์ใดที่เข้าความผิด ก็จะดำเนินคดีทุกราย และต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ผิดก็คือผิด ห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องช่วยเหลือเด็ดขาด” พล.ต.ต.วิทยา กล่าว
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวด้วยว่า เรื่องเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของผู้ต้องหานั้น ตรงนี้ได้เชิญสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอก (ปปง.) มาร่วมตรวจสอบแล้ว ส่วนทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อยู่ระหว่างประสาน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่แปรสภาพหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ปคบ.ได้เฝ้าติดตามข่าวสาร และพฤติกรรมของผู้ต้องหามาโดยตลอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มอบงานตามเดิม ระหว่าง นั่งรักษาการ ผบ.ตร.