ธนาคารกรุงไทย อัพเกรด Mobile Banking

กรุงไทย Mobile Banking
ธนาคารกรุงไทยเสริมทัพไอที ยกระดับ Mobile Banking

ธนาคารกรุงไทย จ้างผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทชั้นนำระดับโลก ยกระดับการให้บริการด้านไอที เพิ่มความสะดวกสบาย ทำให้ปริมาณลูกค้าของ กรุงไทย โดยเฉพาะด้าน Mobile Banking เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ประชาชนแห่ใช้บริการ Mobile Banking

​นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารต่างๆ ได้นำระบบเทคโนโลยีมาให้บริการกับลูกค้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ทำให้ปริมาณลูกค้า โดยเฉพาะด้าน Mobile Banking เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารต้องเร่งขยายเครือข่าย เพื่อรองรับธุรกรรมต่างๆ  แต่เนื่องจากอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก ทำให้ในบางช่วงบางขณะ โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนที่มีลูกค้าใช้บริการพร้อมกันจำนวนมาก ระบบจึงเกิดขัดข้อง ซึ่งธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ความสำคัญในการดูแลเรื่องนี้เป็นอันดับแรกๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าและประชาชน

นอกจากการลงทุนเพื่อขยายเครือข่ายในการรองรับธุรกรรมต่างๆ ตามความตื่นตัวด้านเทคโนโลยีของลูกค้าแล้ว ธนาคารยังได้ยกระดับการให้บริการ โดยเฉพาะระบบการชำระเงินของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ การดูแลบัตรสวัสดิการ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ได้รับเงินสวัสดิการจากภาครัฐอย่างทั่วถึง บริการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งทั้งหมดได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดูแลลูกค้ารายย่อยของธนาคารเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ธนาคารจึงได้จ้างผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทชั้นนำระดับโลก มาจัดทำแผนเร่งด่วน และแผนระยะยาว เพื่อยกระดับการให้บริการให้ดีมากยิ่งขึ้น

นายผยง ศรีวณิช กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกรุงไทยเชื่อมั่นว่า จากการบูรณาการหลายๆ เรื่อง ทั้งการลงทุนด้าน IT จำนวน 19,000 ล้านบาท การมีแผนงานที่ชัดเจน การมีผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทชั้นนำระดับโลก 2-3 ราย จะช่วยยกระดับการให้บริการให้ราบรื่นมากกว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาขัดข้องของระบบ Mobile Banking จะลดน้อยลงอย่างแน่นอน

ข้อมูลจาก เว็บไซต์ธนาคารกรุงไทย ระบุ ประวัติของธนาคารกรุงไทยไว้ว่า

ธนาคารกรุงไทย ด้วยรากฐานอันมั่นคงมาเกือบครึ่งศตวรรษ มุ่งมั่นที่จะเป็นธนาคารแสนสะดวกและมั่นคง ที่ประชาชนไว้วางใจในบริการที่เป็นเลิศ ด้วยเครือข่ายครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศ พร้อมที่จะให้บริการคุณในทุกระดับ ทั้งลูกค้าบุคคล ลูกค้าองค์กร ลูกค้าสถาบัน ลูกค้าภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจและลูกค้าธุรกิจทุกขนาด ไม่เพียงแต่ประวัติศาสตร์ในการดำเนินงานที่ภาคภูมิใจเท่านั้น ยังพร้อมที่ จะคืนกำไรสู่ สังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยกิจกรรม สร้างทุนปัญญา อย่างเท่าเทียมกัน

รากฐานแห่งความมั่นคง

“เยาวราช” คือ ถนนสายเศรษฐกิจเส้นสำคัญ นับตั้งแต่ ที่ถนนเส้นนี้ ได้ถูกสร้างขึ้น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถนนแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวจีน และตามตำราภูมิศาสตร์พยากรณ์ (ฮวงจุ้ย) ก็บอกไว้ว่าถนนสายนี้ คือ ทำเลมังกรทอง ดังนั้นธนาคารหลายแห่งจึงถือกำเนิดขึ้น บนถนนสายเศรษฐกิจเส้นนี้

ปี 2509 “ธนาคารกรุงไทย” เริ่มเปิดดำเนินกิจการ

เริ่มก่อตั้ง “ธนาคารกรุงไทย จำกัด” สาขาแรก โดยรวม 2 ธนาคาร ที่รัฐบาลเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ ในขณะนั้น ได้แก่ ธนาคารเกษตร จำกัด และธนาคารมณฑล จำกัด สำนักงานตั้งอยู่บนถนนเยาวราช ถนนสายเศรษฐกิจ เส้นสำคัญในขณะนั้น ทั้งนี้เพื่อให้มีฐานะทางการเงิน ที่มั่นคงสามารถคุ้มครองผู้ฝากเงิน และบริการลูกค้าได้กว้างขวาง และมีบทบาทช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ได้มากขึ้นด้วย

ปี2525 ธนาคารกรุงไทยย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ถนนสุขุมวิท

ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ ณ อาคารเลขที่ 35 ถนนสุขุมวิท จนถึงปัจจุบัน เพื่อตอบรับความเจริญเติบโตในการดำเนินธุรกิจของธนาคารกรุงไทย และเพื่อบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง

ปี2530 ธนาคารกรุงไทยได้รับมอบหมาย ให้ช่วยบริหารงาน “โครงการ 4 เมษา”

ต่อจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเน้นในเชิงธุรกิจ ซึ่งเท่ากับว่าธนาคารกรุงไทยมีบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของไทย จากนั้นเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน ธนาคารกรุงไทยได้รับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของธนาคารสยาม จำกัด ที่กำลังมีปัญหาจากการควบรวมครั้งนี้ ทำให้ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารที่มีทรัพย์สินมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และแสดงบทบาทความเป็น “ธนาคารนำ” (Lead Bank)

ปี 2531 ธนาคารกรุงไทยขยายสาขาครอบคลุมทุกจังหวัดของประเทศ

ขยายสาขา ติดตั้งระบบออนไลน์ และเครื่องเอทีเอ็ม ครอบคลุมทุกจังหวัดของประเทศไทย ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวในขณะนั้น ที่สามารถขยายศักยภาพการให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง

ปี 2532-2537 หุ้นของธนาคารกรุงไทยเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อีกก้าวที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อได้นำหุ้นของธนาคารเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งแรก โดยเริ่มเปิดให้มีการซื้อ-ขายหุ้นของธนาคารในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2532 และในวันที่ 24 มีนาคม 2537 ธนาคารกรุงไทยเปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน ภายใต้ชื่อ “ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Krung Thai Bank Public Company Limited”

ปี2540-2547 ธนาคารกรุงไทยฝ่าฟันอุปสรรคด้วยความมุ่งมั่น

ในปี 2540 สถาบันการเงินส่วนใหญ่ประสบปัญหาการขาดความเชื่อมั่น ในสถาบันการเงิน แต่ธนาคารกรุงไทยก็ยังสามารถฟันฝ่าอุปสรรคในช่วง ที่มีสภาวะเศรษฐกิจ และการเงินของประเทศแทบจะล้มละลายมาได้

ในปี พ.ศ. 2546 ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรก ที่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ และยังเป็นผู้นำในการรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งสุดท้าย ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง และก็ยังเป็นผู้นำในการรณรงค์ให้ประชาชนหันมารักษาและเปิดเผยข้อมูลเครดิตของตนเองเพื่อประโยชน์ในการขอสินเชื่อ ปลายปี พ.ศ. 2547 บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิใน 6 จังหวัดภาคใต้ เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท

ธนาคารกรุงไทย

วาสนาของแบงก์ ! กรุงไทย กำไร ต้นปี1.1หมื่นล้าน