

“จิราพร” ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กังวลว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินดิ ไอคอน ให้ตำรวจปคบ.มีหนังสือไปถึง ปปง.ให้พิจารณาอายัดทรัพย์ไปก่อน ขอให้ประชาชนสบายใจ ว่าปปง.ได้เฝ้าระวังทรัพย์สินอยู่ถ้าหากมีการยักย้ายถ่ายเทแบบผิดปกติ
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแล สคบ. กล่าวภายหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของ บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ปเมื่อวานนี้ ว่า ได้เชิญสตช. ดีเอสไอ สคบ. และปปง.มาหารือปัญหาที่เกิดขึ้น ตอนนี้สตช.ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนล่าสุดมีผู้ร้องเรียน 250 คน มูลค่าความเสียหาย 95 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆเพื่อจะดูว่าจะนำไปสู่การแจ้งข้อหาความผิดฐานอะไรบ้าง เช่น มีการหลอกลงทุนหรือไม่ เป็นลักษณะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เป็นการขายตรงและผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ โดยจะมีการเร่งสอบสวนให้เร็วที่สุดอย่างช้าไม่เกิน 1สัปดาห์น่าจะทราบผลได้
มีความกังวลว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน
“เรามีความกังวลว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือไม่ ทางตำรวจปคบ.มีหนังสือไปถึงปปง.ให้พิจารณาอายัดทรัพย์ไปก่อนซึ่งปปง.ได้เฝ้าระวังทรัพย์สินอยู่ถ้าหากมีการยักย้ายถ่ายเทแบบผิดปกติจะเข้าข่ายเป็นการฟอกเงินด้วยซ้ำก็ให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่าปปง.เตรียมการดูในเรื่องนี้อยู่“
สำหรับคดีจะเข้าดีเอสไอหรือไม่ต้องมีผู้เสียหาย 300 คนความเสียหาย 100 ล้านบาทซึ่งตอนนี้ก็ใกล้เคียงแล้วทางสตช.ก็ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมาก ในการรับเรื่องร้องเรียนจะได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปร่วมสอบสวนด้วยและสคบ.จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมด้วยเช่นเดียวกันตลอดจน อย.และสำนักงานเศรษฐกิจการคลังที่ถือกฎหมายอยู่ก็จะร่วมเข้าไปให้ข้อมูลในการสอบสวนด้วยเช่นกัน
16 ตุลาคมนี้จะเรียกทางบริษัทดิไอคอน บอสพอล และอินฟูเอ็นเซอร์มาให้ปากคำ
ส่วนประเด็นดารา และอินโฟอินฟูเอ็นเซอร์จะต้องเรียกเข้ามาสอบถามต่อไปทางสคบ.ดูกฎหมายเรื่องการโฆษณาอยู่ฉะนั้นวันที่ 16 ตุลาคมนี้จะได้เรียกทางบริษัทดิไอคอน บอสพอล และอินฟูเอ็นเซอร์มาให้ปากคำ ตลอดจนสอบสวนสำหรับเส้นทางทางการเงินจะเกี่ยวข้องกับดาราหรือไม่ก็ต้องขยายผลออกไปให้ครอบคลุมว่ามีเครือข่ายตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลมาถ้าใครที่เข้าข่ายจะต้องเข้ามาให้ปากคำให้ข้อเท็จจริง
“อยากเรียนประเด็นที่สคบ.เคยมอบโล่รางวัลตอนนั้นบริษัทมาบริจาคหน้ากากและแอลกอฮอล์ให้กับคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรในต่างจังหวัด และสคบ.เป็นวิทยากรร่วมจึงมีการเสนอเรื่องเข้ามาให้ได้รับโล่รางวัลในการทำสาธารณะประโยชน์ไม่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ ซึ่งได้สั่งการให้สคบ.ไปตรวจสอบ หากมีการใช้โล่รางวัลผิดวัตถุประสงค์ในการโฆษณาประกอบธุรกิจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดจะมีการเรียกคืนโล่ห์รางวัลกลับมาและประเด็นที่มีเสียงออกไปว่ามีเทวดาที่สคบ.ขอให้ไปประชาชนสบายใจว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการคนนอกสอบสวนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส่มากที่สุด”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘จิราพร’ เผย ‘เคอีเอ็กซ์-ไปรษณีย์ไทย’ ขานรับ กม.คุ้มครองนักช้อป