คำสั่งห้ามออกใบอนุญาตพกอาวุธปืน มีผลบังคับวันนี้ (20 ธ.ค.66)

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย

คำสั่งห้ามออกใบอนุญาตพกอาวุธปืน มีผลบังคับวันนี้ (20 ธ.ค.66) หลังมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย

  • จะไม่มีผลบังคับกับเจ้าหน้าที่
  • หรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้พกอาวุธปืนติดตัว
  • ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2566 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย ที่ 3877/2566 เรื่อง ห้ามการออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ (20 ธ.ค. 2566) ถึง วันที่ 19 ธ.ค. 2567

ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันได้มีการนำอาวุธปืนติดตัวไปในที่สาธารณะและได้ก่อเหตุร้าย ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน เป็นที่หวาดกลัวของประชาชน อันส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพในด้านความปลอดภัยและขัดต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม  ดังนั้น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยสาธารณะ ลดอาชญากรรมและควบคุมสถานการณ์ให้บ้านเมืองกลับมาเป็นปกติสุข จึงได้ออกคำสั่งห้ามออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) เป็นการชั่วคราว เว้นแต่กรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ

“คำสั่งฯ จะไม่มีผลบังคับกับเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้พกอาวุธปืนติดตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ อาทิ  เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน เช่น ทหารตำรวจ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการ ประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการช่วยเหลือราชการและมีเหตุจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธตามกฎหมาย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้มีนโยบายเพิ่มความเข้มงวดเพื่อควบคุมไม่ให้มีการใช้อาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตไปใช้ในการก่อเหตุจนกระทบต่อความสงบสุขของประชาชน ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยจึงออกมาตรการต่างๆ เช่น การงดการออกใบอนุญาตให้ร้านค้าอาวุธปืน ในการสั่ง หรือนำเข้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน(แบบ ป.2) เจ้าหน้าที่มีการการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะขอรับใบอนุญาตซื้อปืน (แบบ ป.3) ที่เข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาวุธปืนฯ เพื่อให้มีการขึ้นทะเบียนและส่งมอบอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย และการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืน (จัดเก็บอัตลักษณ์อาวุธปืน)