“อนุทิน”บุกผับเถื่อนเปิด”ปฏิบัติการเลียบด่วน Cleaning”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สนธิกำลังจับกุมสถานบันเทิง "Sonic Club Bangkok"

“อนุทิน”บุกผับเถื่อนเปิด”ปฏิบัติการเลียบด่วน Cleaning” นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เดินหน้าจัดระเบียบสังคม

  • ทลายผับอัพยา พบทั้งยาอี ยาบ้า ยาเค และแฮปปี้วอเตอร์ เกลื่อนร้าน
  • ตรวจฉี่นักเที่ยวรวมพนักงานร้าน พบฉี่สีม่วง 122 คน

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (10 ธ.ค. 66) เมื่อเวลา 02.20 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สนธิกำลังร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. กทม. พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 30 นาย และตำรวจนครบาลโชคชัย บูรณาการเข้าจับกุมสถานบันเทิง “Sonic Club Bangkok” สถานบันเทิงเถื่อน ไม่มีใบอนุญาต บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว พบนักเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติดนับร้อย แหล่งปล่อยของเอเยนต์รายใหญ่ ย่านเลียบด่วน รามอินทรา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สนธิกำลังจับกุมสถานบันเทิง “Sonic Club Bangkok”

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ในสังคมที่ความสงบสุขปลอดภัย ด้วยการสุ่มตรวจสถานบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสถานบริการดำเนินกิจการอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ให้สถานบริการเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ปลอดจากยาเสพติด และไม่ใช่ทำแค่ในกรุงเทพมหานคร แต่ทำในทุกจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เป็นผู้นำการบูรณาการทีมชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองของจังหวัดและอำเภอ ตามที่ปรากฏแทบทุกวันอยู่แล้ว

“การจู่โจมตรวจค้นในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง “Sonic Club Bangkok” กระทำการท้าทายกฎหมาย ทั้งการเปิดโดยไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยปละละเลย ให้นำยาเสพติดเข้ามากระจายและเสพภายในร้าน รวมทั้งเปิดถึงเกือบรุ่งเช้า ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จะออกคำสั่งคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ มีกำหนด 5 ปี ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป” นางสาวไตรศุลีกล่าว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สนธิกำลังจับกุมสถานบันเทิง “Sonic Club Bangkok”

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายที่ชัดเจนในการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมาย การปราบปรามบ่อนการพนัน และสถานบริการสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า กระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ท้ายที่สุดบ้านเมืองเราก็จะมีแต่ความผาสุก

สำหรับปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับในย่านเลียบด่วน รามอินทรา ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนข้อมูลสถานประกอบการและสถานบันเทิงผิดกฎหมายทั่วทั้งกรุงเทพ  และต่างจังหวัด ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม ของนายอนุทิน โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ อาศัยช่วงวันหยุดยาว สแกนเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบสถานบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ปลอดจากยาเสพติด ซึ่งสายลับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดอีกครั้ง ในคืนวันที่ 9 ธ.ค. 2566 ต่อเนื่องคืนวันที่ 10 ธ.ค. 2566

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สนธิกำลังจับกุมสถานบันเทิง “Sonic Club Bangkok”

เมื่อพบว่าสถานประกอบการ Sonic Club Bangkok มีการกระทำผิดจริง จึงได้แจ้งไปยังชุดจับกุม ในเวลา 02.05 น. วันที่ 10 ธ.ค. 2566 จึงเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ มีผู้ที่คาดว่าเป็นเอเย่นต์ยาเสพติดได้วิ่งกรูออกมาจากร้าน พยายามพุ่งชนเจ้าหน้าที่ จนเกิดการต่อสู้และจับกุมได้จำนวน 3 คน พบในตัวมียาเสพติดหลายชนิด คาดว่านำติดตัวไว้จำหน่าย

นอกจากนี้ ภายในร้านมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 200 คน ต่างแตกฮือ โยนยาเสพติดทิ้งลงเกลื่อนพื้น และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

โดยจากการเข้าตรวจสอบ พบนักเที่ยวจำนวน 214 คน เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 7 คน ซึ่งจากการนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายในเบื้องต้น เจ้าพนักงานปปส. ได้พบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 122 คน แยกเป็นชาย 76 คน เป็นหญิง 46 คน ซึ่งหากผู้เสพที่สมัครใจเข้ารับการบำบัด ก็จะให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู หากไม่ยอมเข้ารับการบำบัด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการเข้าปฏิบัติการครั้งนี้ พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้ทำการจับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้ เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบการทำคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี